ถาม : ในขณะที่ตั้งใจเจริญพระกรรมฐาน จิตคิดว่าเราเป็นคนไม่มีศีล ทำผิดศีล ทั้ง ๆ ที่ตลอดทั้งวันเราตั้งใจรักษาศีล ๕ ไม่ได้ละเมิดเลยสักข้อเดียว จะห้ามเท่าไร ถึงขนาดบอกจิตตนเองว่าวันนี้ศีลบริสุทธิ์ จิตก็ไม่เชื่อ จิตคิดอย่างนี้จะทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องทำอย่างไร บอกไปเถอะว่ากูทำดีแล้ว เพราะลักษณะอย่างนั้นแสดงว่ากิเลสมารเขามาหลอกเรา อาตมาเคยโดนกลั่นแกล้งมาเยอะแล้ว ถึงขนาดรัก โลภ โกรธ หลง มาฟ้าถล่มดินทลาย กลายเป็นคนชั่วช้าสารเลวชนิดหาข้อดีไม่ได้เลย แต่อาตมานั่งอยู่หน้าพระประธาน มึงมีปัญญามึงบอกไปสิ กูจะนั่งอยู่ตรงนี้ ถ้ากูไม่คิด ไม่พูด ไม่ทำ เสียอย่าง มึงมีปัญญาก็พากูไปชั่วให้ได้สิ
เป็นวิธีที่หน้าด้านหน่อย แต่ถ้ากำลังยังสู้ไม่ได้ก็ต้องอาศัยลูกตื๊อแบบนั้น ก็คือเรานั่งอยู่ต่อหน้าพระ อย่างน้อย ๆ เรื่องของกายและวาจา เราก็ไม่ทำชั่ว เราไม่พูดชั่วอยู่แล้ว เหลือแต่ใจให้คิดไป เราชนะสองในสาม อย่างไรเสียก็ได้เข้ารอบชิงแน่..!
ถาม : ช่วงนี้ไม่ทราบเป็นมาอย่างไร รู้สึกกังวลใจเรื่องการรักษาศีลอย่างมาก ทำอะไรที่ไม่มั่นใจว่าเป็นการละเมิดศีล ก็จะฟุ้งซ่านคิดว่าตนเองทำผิดศีลไปแล้ว อย่างผมเห็นว่าบ้านหลังนี้สวย อยากจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ เราไปถ่ายมาโดยไม่ได้ขอเจ้าของบ้าน จะถือว่าเป็นการผิดศีลข้อลักขโมยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : แอบถ่ายแล้วได้บ้านหลังนั้นตกมาเป็นของเราไหม ? ถ้าได้มาก็เป็นการลักขโมย แต่เห็นว่าบ้านยังตั้งอยู่ที่เดิมนี่
ถาม : ถ้าไปถ่ายรูปคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าถูกถ่าย ผิดศีลไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าไม่ไปถ่ายใต้กระโปรงของเขาก็ไม่เป็นอะไรหรอก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2016 เมื่อ 19:10
|