ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปี ๒๕๒๘ หลวงพ่อท่านกำลังสร้างตึกรับแขกใหม่ ท่านขึ้นไปตรวจงานที่ชั้น ๓ ผมก็ตามไป ตอนนั้นยังไม่ได้บวช ขณะที่เดิน ๆ ตรวจงานก็มีลักษณะคล้ายชั้น ๓ ของศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายหลังนี้แหละ มีขอบระเบียงอยู่หน่อยหนึ่ง ผมก็ไปชะโงกดู “เฮ้ย...สูงเว้ย” แล้วเกิดความคิดว่า “ถ้าหลวงพ่อสั่งให้กระโดดลงไป เอ็งจะกระโดดไหม ?”
ไม่ทราบว่าพวกท่านเคยมีความคิดอย่างนี้หรือเปล่า ? แต่ความคิดของผม คือ ถ้าหลวงพ่อสั่งให้กระโดดลงไป เอ็งจะกระโดดไหม ? ก็ปรากฏว่าคำตอบผุดขึ้นมาเองว่ากระโดด เพราะไม่มีพ่อที่ไหนจะฆ่าลูกหรอก ถ้าท่านสั่งให้โดดต้องมีเหตุผล ผมพร้อมจะโดดลงไปทันที ถ้าท่านชี้ไปข้างหน้าที่มีไฟลุกท่วมฟ้าอยู่แล้วบอกว่า “ทางนี้แหละลูก ไปพระนิพพานได้ เอ็งจะไปไหม ?” เป็นคำถามต่อมามาอีก ผมตอบว่าผมไป เพราะผมมั่นใจว่าท่านชี้ทางถูกให้
เพราะฉะนั้น...เรื่องพวกนี้ถ้าเกิดขึ้นในใจเราเมื่อไร เราจะมีความมั่นคงแน่นแฟ้นต่อพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่ง ผมใช้คำว่า “ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี” ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ากำลังใจมาถึงจุดที่หลวงพ่อท่านต้องการหรือเปล่า ? อีกไม่นานท่านถึงบอกกับผมว่า ท่านต้องการพระบวชแก้บน ๓ รูป จะบวชให้ท่านได้ไหม ? ปกติของท่านถ้าได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ แต่วันนั้นผมลังเล เพราะไปเห็นนรกมาตั้งแต่อายุยังไม่ครบ ๒๐ ปี อย่าลืมว่าผมปฏิบัติตั้งแต่เพิ่งรู้ภาษา พอผมรู้ภาษาขึ้นมาก็เห็นตัวเองหลับคอพับคออ่อนสวดมนต์อยู่กับพ่อมาตลอด
ในเมื่อเห็นนรกมา ส่วนใหญ่แล้วมีแต่นักบวชทั้งนั้น ผมก็เลยลังเล กราบเรียนถามท่านว่า “หลวงพ่อต้องการให้บวชนานไหมครับ ?” ท่านบอกว่า “บวชแก้บนใครเขาเอานานกัน สัก ๗ วันก็พอแล้ว” จึงกราบเรียนท่านอีกครั้งว่า “ขอผมคิดดูก่อนครับ” ปกติถ้าพูดอย่างนี้นะ ไม้เท้าลงกบาลแน่นอน..! แต่วันนั้นท่านบอกว่า “เออ...ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอพ่อกลับจากนิวซีแลนด์ก่อนก็ได้” เพราะช่วงนั้นท่านเตรียมตัวจะไปนิวซีแลนด์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 12:44
|