ฉะนั้น...ในช่วงระยะเวลาที่ปฏิบัติอยู่กับท่าน ช่วงฆราวาส ๑๑ ปีและช่วงเป็นพระอีก ๗ ปีกว่า ผมเคยถามปัญหาหลวงพ่ออยู่ ๔ ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกไม่ใช่ถามปัญหาด้วย ไปต่อว่าท่าน ว่าท่านเขียนหนังสือผิด ก็คือช่วงนั้นผมกำลังเริ่มปฏิบัติอยู่ ตั้งใจอยากจะได้ปฐมฌานเพื่อเอาไว้ตัดกิเลส อย่างต่ำจะได้เป็นพระโสดาบันกับเขา ผมทุ่มเทอยู่ ๓ ปีเต็ม ๆ ไม่ได้สักที จนกระทั่งถึงวันหนึ่งเหนื่อยเต็มทีแล้ว ทำมาเท่าไรก็ไม่ได้ ก็ช่างเถอะวะ ได้ไม่ได้ก็ช่าง เรามีหน้าที่ทำก็แล้วกัน ปรากฏว่าโป๊ะ...เป็นฌานเลย
ทันทีที่ผมมั่นใจว่าตรงนี้คือปฐมฌานแน่นอน ผมโดดขึ้นรถเมล์จากกรุงเทพฯ ตรงไปอุทัยธานี ไปถึงตอนช่วงบ่าย ๓ โมงได้ หลวงพ่อท่านยังรับแขกอยู่บนศาลานวราชบพิตร ข้างหอนาฬิกาด้านฝั่งโบสถ์ใหม่ พอขึ้นไปถึงท่านก็ว่า “ไอ้หนูมาจากไหนหว่า ? มีอะไรจะคุยบ้างไหม ?” ผมกราบงามสามครั้งแล้วเรียนท่านว่า “หลวงพ่อเขียนตำราผิดนี่ครับ..!”
ท่านหัวเราะ เป่ายานัตถุ์เสร็จก็บอก “ใจเย็น ๆ ไหนลองว่ามาซิ” เรียนท่านว่า “หลวงพ่อเขียนตำราบอกว่าปฐมฌานต้องประกอบไปด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคตารมณ์ เป็นขั้น ๆ ที่ผมทำได้ไม่ใช่แบบนั้นนี่ครับ พรวดเดียวมี ๕ ขั้นเลย” หลวงพ่อท่านบอกว่า “ไอ้หนู...เคยได้ยินคำที่โบราณที่ว่าลัดนิ้วมือเดียวไหม ?” แล้วท่านก็งอนิ้วดีดให้ดู คำว่าลัดนิ้วก็คือดีดนิ้ว
ท่านจะบอกว่า เราจะเห็นตอนที่นิ้วงอและตอนที่นิ้วตั้งตรงเท่านั้น แต่คนที่จิตละเอียดมาก ๆ เราจะเห็นว่าค่อย ๆ ขึ้นแบบนี้ ๆ ท่านค่อย ๆ ยืดนิ้วให้ดู ท่านบอกว่า “ที่หลวงพ่อเขียนก็คือค่อย ๆ ขึ้นแบบนี้ แต่ที่เอ็งเห็นก็คือตอนที่นิ้วงอแล้วไปตั้งตรงเลย” ผมกราบตูดโด่งสามที แล้วลาไปปฏิบัติต่อ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2016 เมื่อ 14:00
|