กระแสพระนิพพาน(ต่อ)
เอาเป็นว่า นิพพานัง ปรมัง สุขขัง ที่ท่านบอก “นิพพานเป็นสุขจริงหนอ” เราจะอยู่ใน “ปรมัง สุขขัง” ตรงนั้นแหละ... นิพพานก็เข้าถึงด้วยใจแล้ว พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็เคารพ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็เบื่อแล้ว เอ้า ! ก็ทำงานไปด้วยอารมณ์อย่างนี้ นี่คือกระแสพระนิพพาน ภาษาที่แยกขั้นตอน เขาเรียก “กระแสพระโสดาบัน” .. อารมณ์พระโสดาบัน เขาเอากันแค่นี้
ถ้าไปเรียก 'พระโสดาบัน' "หู!...พระโสดาบันเกิดอีกตั้ง ๗ ชาติ" อาจจะฟุ้งอีก ถ้าคนเข้ากระแสพระนิพพานไม่ตัดอยู่แล้วใช่ไหม? บางคนก็จับไฟยาวตั้งกิโล ไฟแสนโวลต์นี่ ไปจับกระแสตอนปลายก็ตาย ตอนต้นก็ตายใช่ไหม? เปิดไฟดวงสุดท้ายก็สว่าง ดวงแรกก็สว่างเหมือนกัน ก็เปิดมันตรงกระแสไฟนี่แหละ! เหมาะกับเราเท่าไร... เราก็เปิดมันตรงนั้นแหละ !
ตอนแรกต้องหลอกมันก่อนเพื่อว่า จิตมันจะได้ยอมจับกระแสพระนิพพานง่าย ๆ ถ้าบอกว่า"วันนี้ตายแน่ไม่เหลืออะไร" โห...มันตกใจ "เมียก็สวยผัวก็หล่อ เงินก็ยังมี ลูกก็ยังเรียนไม่จบ ตายได้อย่างไรกัน!!?" มันค้านเลยใช่ไหมลูก ต้องเอา ๑๐๐ ปีล่อมันก่อน จนใจมันยอมรับเหตุผลอย่างนี้ ค่อย ๆ เลื่อนขึ้น จาก ๑๐๐ ปีมันก็เหลือ... อีกหน่อยมันก็ลด
ติ๋งต่างว่ามันมาพรุ่งนี้แล้ว เราพร้อมไหม? "เอ้า! พร้อมสิ ใจก็ไม่เอา ร่างกายยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศีลก็บริสุทธิ์ ร่างกายก็ไม่เห็นประโยชน์ ..จะอยู่ทำไม !! อยู่ทำไมอีก? ถ้ามีโอกาสได้พัก.. ก็พัก แล้วไปอยู่กับพระพุทธเจ้าแล้ว"
(มีต่อค่ะ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 28-08-2009 เมื่อ 17:58
|