ดูแบบคำตอบเดียว
  #68  
เก่า 17-08-2016, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,416,967 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “อะไรที่พอดีก็ก่อให้เกิดประโยชน์ ฝนพอดีพืชพันธุ์ธัญญาหารก็อุดมสมบูรณ์ ฝนมากเกินไปก็เดือดร้อน น้อยเกินไปก็เดือดร้อน หนาวแต่พอดีก็สดชื่นรื่นเริง หนาวมากเกินไปก็งอก่องอขิง ถ้าอบอุ่นก็กำลังดี ถ้าร้อนมากก็เดือดร้อนอีก

เราจะเห็นว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นสัจธรรมจริง ๆ คือ มัชฌิมาปฏิปทา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพอเหมาะพอดีจึงจะก่อประโยชน์สูงสุด เพราะฉะนั้น...ศาสนาพุทธจึงเป็นของแท้ ทนต่อการพิสูจน์ แต่จำเป็นต้องมีการฝึกปฏิบัติอย่างจริง ๆ จัง ๆ ให้เกิดผล ถ้าไม่เกิดผลก็คือตัวเองยังพิสูจน์ไม่ได้ แล้วจะไปท้าทายให้คนอื่นพิสูจน์ได้อย่างไร ?

พระพุทธเจ้าทรงประกอบไปด้วยเวสารัชชกรณธรรมทั้ง ๔ คือพระองค์ท่านปฏิญาณว่าหมดกิเลสก็หมดกิเลสจริง ๆ ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ พระองค์ท่านปฏิญาณว่าตรัสรู้ธรรมก็รู้จริง ๆ ไม่มีใครคัดค้านได้ พระองค์ท่านตรัสว่าธรรมอันใดเป็นอันตรายต่อการดำเนินชีวิตก็เป็นอันตรายจริง ๆ ไม่มีใครคัดค้านได้ พระองค์ท่านตรัสว่าหลักธรรมใดเป็นไปเพื่อมรรคผลพระนิพพานก็เป็นไปเพื่อมรรคผลพระนิพพานจริง ๆ ไม่มีใครคัดค้านได้

เมื่อพระองค์ท่านประกอบด้วยฐานะทั้ง ๔ นี้ จึงไม่ได้หวั่นไหวแม้ว่าอยู่ในสมาคมใด ๆ ก็ตาม พระองค์ท่านตรัสว่าแม้จะนั่งอยู่ในหมู่มหาพรหม หมู่เทวดาทั้งหลาย ในหมู่ของกษัตริย์ทั้งหลาย หรือในหมู่พราหมณ์มหาศาลทั้งหลายก็ตาม พระองค์ท่านก็ไม่ได้มีความหวั่นไหวใด ๆ เพราะว่าพระองค์ท่านเป็นผู้ที่รู้จริง พูดจริง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-08-2016 เมื่อ 16:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา