แต่มีเคล็ดลับอยู่นิดเดียวสำหรับคนที่ไม่เคยฝึก หรือฝึกแล้วยังทำไม่ถึง ก็คือ เราภาวนาไปจะเกิดนิมิตเป็นแสงขึ้นมา โดยเฉพาะแสงนี้จะเป็นสีทองอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแสงที่มาลักษณะสว่างไปทั่วจักรวาลก็ดี สว่างเป็นแผ่นผืนก็ดี เป็นจุดเป็นเส้นอะไรก็ตาม ให้น้อมกำลังใจดึงเอาแสงนั้นเข้ามาในอกของเรา ถ้าสามารถรวมกันเป็นดวงอยู่อกของเรา สว่างไสวเต็มที่เมื่อไร ตัวเราจะเริ่มลอยพ้นพื้น
ตอนนี้ต้องตั้งสติดี ๆ ห้ามตื่นเต้นแล้วก็ห้ามกลัว ก็จะลอยอยู่ในห้องนั่นแหละ แต่อย่าเผลอเปิดหน้าต่างนะ เดี๋ยวจะไปไกล แต่ถ้าทำอย่างอาตมาก็ปิดพัดลมด้วย เพราะตอนนั้นใช้พัดลมเพดานยาวเป็นเมตร กำลังภาวนาเพลิน ๆ อะไรดังขวับ ๆ อยู่ข้างเอววะ ? ลืมตาขึ้นมาดู ตายห่...ลอยขึ้นมาอยู่ข้างพัดลม ด้วยความที่ตกใจสมาธิหลุด เลยหล่นตึงลงมา
ฉะนั้น...พวกเราถ้าจะภาวนาให้ประคองสติเอาไว้ ซ้อมลอยข้างในให้คล่องก่อน บังคับทิศทางให้ได้ก่อน จะไปซ้ายขวาหน้าหลัง จะขึ้นบนลงล่าง หมุนรอบห้องก็ได้ ซ้อมไปเรื่อย พอมีความคล่องตัว มั่นใจว่าสมาธิไม่คลายตัวแล้วค่อยไปที่อื่น แต่ว่าติดสตางค์ไว้ในกระเป๋าบ้างนะ ถ้าหากไปไกลแล้วหล่นปุ๊ลงมาจะได้หารถหารากลับบ้านได้
ฉะนั้น...ส่วนนี้ฝากพวกเราไว้เลยว่า ไปทำได้แล้ว สถานการณ์ไม่อำนวยด้วยแล้วทุกประการ อาตมาคนเดียวแบกทั้งประเทศไม่ไหว พยายามจะเอาในหลวงออกจากโรงพยาบาล ตัวเองก็ปางตายแทน มีทางเดียวคือ พวกเราเองต้องช่วยกันทำ ถ้าหากว่าพวกเราทำจนเกิดผล ไม่ต้องมากหรอก แค่ ๓ คน ๕ คน ก็พอแล้ว เพราะฆราวาสไม่มีข้อจำกัดด้วยศีลเหมือนพระ ลุยไปได้เต็มที่เลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2016 เมื่อ 19:35
|