ดูแบบคำตอบเดียว
  #351  
เก่า 26-08-2016, 16:12
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

นั่น...เห็นไหมล่ะ ? กำหนดทดลองดูนะ ไม่ใช่ธรรมดา คือมันสว่างขนาดนี้แล้ว ไปอยู่บนเขานี่นะ เอาภูเขาทั้งลูก.. กำหนดดูภูเขาทั้งลูกนี้เหมือนเงา เหมือนกับแก้วครอบตะเกียงเจ้าพายุนั่นแหละ ภูเขาทั้งลูกนี้เหมือนเงา เหมือนแก้วครอบตะเกียงเจ้าพายุ จิตนี้พุ่งออกหมดเลยจึงได้อัศจรรย์

‘โอ้โห...จิตของเรานี้ทำไมถึงอัศจรรย์ถึงขนาดนี้เชียวนา’

นี่ละพระธรรม...ท่านกลัวเราติด ก็เราติดแล้วนั่นน่ะจะว่าไง ท่านกลัวเราติดจึงขึ้นมา นี่ละที่ว่าธรรมเกิด ฟังเอานะ เมื่อเห็นความอัศจรรย์เจ้าของมองไปที่ไหนมันว่างไปหมดเลย ... นี่ละจิตดวงนี้ เวลาชำระความมัวหมอง มลทินมืดตื้อออกมากน้อยเพียงไรมันจะแสดงตัวเต็มเหนี่ยว ๆ

ทีนี้ก็ขึ้นอัศจรรย์ในตัวเอง โอ้โห.. จิตของเราทำไมถึงอัศจรรย์ถึงขนาดนี้เทียวนา กำหนดดูอะไรมันไม่มีเลย มองดูภูเขาต่อหน้านี้มันทะลุไปต่อหน้าต่อตาเลย อันนี้มันรุนแรงทะลุไปหมด ภูเขาไม่มีความหมายนะ เหมือนกับตะเกียงแก้วครอบไม่มีความหมาย ไส้ตะเกียงความสว่างทะลุออกไปหมดเลย อันนี้ก็เหมือนกันนั่นแหละ เราเทียบได้อย่างนี้

ทีนี้ธรรมเกิดนะ เรียกว่าธรรมเตือน กลัวเราจะติด พอรำพึงอยู่นั้นเราก็นิ่ง สักเดี๋ยวขึ้นมาเป็นคำพูดนะ ออกมาจากหัวใจจริง ๆ เป็นคำพูดเหมือนเราพูดกัน แต่ให้ได้ยินเสียงไม่ได้ยิน หากเป็นคำพูดในใจบอก พอรำพึงถึงเรื่องความอัศจรรย์ของจิตจบลงเท่านั้น อุบายก็ผุดขึ้นมาในขณะจิตหนึ่งเป็นคำ ๆ เป็นประโยค ๆ อย่างไม่คาดไม่ฝันว่า ‘ถ้ามีจุดมีต่อมแห่งผู้รู้อยู่ที่ไหน นั้นแลคือตัวภพ’

ว่าอย่างนั้นเรางงทันที.. งงเป็นไก่ตาแตกไปเลยทั้ง ๆ ที่ธรรมท่านเตือนเราให้รู้ ว่าจุดก็คือจุดผู้สว่างนั้นแหละ แทนที่จะได้อุบายจากอุบายนั้นกลับไม่ได้ นี่ถ้าเป็นท่านผู้รู้ผู้ฉลาดท่านก็ว่า “ธรรมเกิด แต่เรามันโง่จึงไม่อาจคิดขึ้นได้” มิหนำซ้ำยังเพิ่มความสงสัยเข้าไปอีกว่า “เอ..จุดที่ไหน ? ต่อมที่ไหน ?”

ทั้งที่ก็มองเห็นชัด ๆ อยู่แล้ว เพราะจุดสว่างมันเห็นเป็นดวงอยู่ในจิต สว่างจ้าอยู่ภายในจิตนี้ พูดง่าย ๆ ก็เหมือนตะเกียงเจ้าพายุ มันสว่างจากไส้ตะเกียง ไส้มันคือจุดที่สว่างมันก็เห็นอยู่แล้ว จุดแห่งความสว่างมันก็เห็นได้อย่างชัด ๆ แต่มันไม่จี้เข้าตรงนี้ กลับลูบคลำไปที่ไหนตามประสาความโง่นั่นแหละ อุบายผุดขึ้นมาขนาดนั้นแล้วน่าจะยึดได้ มันยังยึดไม่ได้ จึงไม่ได้ประโยชน์จากอุบายที่ผุดขึ้นบอกในเวลานั้น ปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ ยังปลงวางกันไม่ได้ จึงได้แบกปัญหานี้ธุดงค์ไปคนเดียวในป่าในเขาทางอำเภอหนองผือ จังหวัดอุดรธานี และทางอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2016 เมื่อ 20:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา