อาตมาเองสวดมนต์มากไม่ได้ เพราะว่าตอนนี้ปอดอักเสบ เป็นหวัดลงคอ แต่พอมีเรื่องให้ด่ารัฐบาลจะพูดคล่องมาก..! ต้องบอกว่ามีฉันทะพอในบางด้านเท่านั้น ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ สิ่งที่อยากจะฝากไว้กับพวกเราก็คือว่า ทุกคนจะต้องหนักแน่น ถ้าเราไม่หนักแน่น เต้นตามกระแสเมื่อไรเราจะขาดเหตุผลทันที ฟังให้ดี ๆ ถ้าหากว่าหูไม่หนัก ใจไม่หนัก เราเต้นตามกระแสเมื่อไร เราจะขาดเหตุผลทันที แล้วถ้าเราขาดเหตุผลเมื่อไร เราก็จะมีฝ่ายตรงข้ามเมื่อนั้น ถ้าเรามีฝ่ายตรงข้ามเมื่อไร ความแตกแยกก็เกิดขึ้นเมื่อนั้น..!
เราต้องดูประเทศอังกฤษหรือประเทศอเมริกาที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตย รัฐบาลกับฝ่ายค้านทำงานร่วมกัน ถึงเวลารัฐบาลคุณชนะการเลือกตั้งขึ้นมา ฝ่ายค้านก็ตั้งรัฐบาลเงาประกบมีนายกรัฐมนตรีเงา มีรัฐมนตรีเงา ถึงเวลาก็ประชุมร่วมกัน ฝ่ายรัฐบาลเงาสามารถเสนอแนวคิดที่เห็นว่าเข้าท่าเข้ามา ถ้าหากว่าทางรัฐบาลเห็นว่าดีแล้วนำไปปฏิบัติ ก็จะให้เครดิตบอกกล่าวว่าเป็นความคิดของฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านศึกษาเรียนรู้งานร่วมกับรัฐบาลมาตลอด ถ้ารัฐบาลมีอันเป็นไป เหมือนอย่างนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เพิ่งจะพ้นตำแหน่งไป อีกฝ่ายหนึ่งก็สามารถบริหารงานต่อได้ทันทีโดยไม่สะดุด เพราะว่ารับรู้งานร่วมกันมาโดยตลอด
นี่คือหลักการบริหารที่เป็นไปตามแนวของประชาธิปไตย ต้องเรียกว่าเป็นไปโดยโปร่งใส ไม่มีการหมกเม็ด เพราะฉะนั้น...ในสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม ถ้าหากว่าเราทำโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ธรรมาภิบาลไม่ใช่หลักธรรมในพระพุทธศาสนา ธรรมาภิบาลเป็นทฤษฎีการปกครองของฝรั่ง ที่ใช้คำว่า Good Governance คือการปกครองที่ดี แล้วคนไทยมาแปลว่า ธรรมาภิบาล ซึ่งมีหลักความโปร่งใส ความคุ้มค่า ความมีส่วนร่วม ฯลฯ ไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูได้ ถ้าอาตมาอธิบายตรงนี้เวลาจะไม่พอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2016 เมื่อ 01:50
|