ความจริงแล้วการบวงสรวงอ้อนวอนร้องขอต่อเทพเจ้า เป็นธรรมเนียมพิธีของพราหมณ์ทั้งหลาย ศาสนาฮินดูจะมีการบวงสรวงร้องขอต่อเทพเจ้าเป็นปกติ แต่พอมาถึงบ้านเรา ก็มาปรับเป็นการไหว้ครู ก็คือไหว้ครูใหญ่ตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมา จนถึงครูตามสายวิชาการ ตามสายกรรมฐานในปัจจุบัน
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าถามว่า ไม่ใช่ศาสนาพุทธบริสุทธิ์แล้วเอามาทำเพื่ออะไร ? ก็ต้องตอบว่าท่านที่ต้องการศาสนาพุทธบริสุทธิ์นั้นหาไม่ได้
ศาสนาพุทธของเรามีทั้งส่วนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปรับเปลี่ยนคำสอนของศาสนาอื่นมาให้เป็นคำสอนที่ถูกต้อง มีทั้งส่วนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ได้โดยพระองค์เอง ก็แปลว่าในเรื่องของศาสนาพุทธของเรา มีหลักธรรมของศาสนาอื่นปนอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้คัดค้านศาสนาของใคร แต่พระองค์ท่านจะนำเสนอในสิ่งที่ดีกว่า โดยอิงกับศาสนาเดิมของเขา
อย่างในอาทิตตปริยายสูตร ชฎิล ๓ พี่น้องกับบริวารหนึ่งพันบูชาไฟ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสว่า การบูชาไฟนั้นดี แต่ถ้ารู้จักการบูชาไฟภายในนั้นจะดียิ่งกว่า แล้วพระองค์ท่านก็สอนว่าตาเป็นของร้อน รูปเป็นของร้อน หูเป็นของร้อน เสียงเป็นของร้อน เป็นต้น ถ้าหากว่าสามารถดับไฟทั้งหลายที่เกิดจาก ราคะ โทสะ โมหะ นี้ลงได้ ความสงบเย็นคือพระนิพพานก็จะเกิดขึ้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2017 เมื่อ 16:33
|