สมัยก่อนเรื่องอำนาจของเจ้าอาวาสที่มีตามกฏหมาย ทำให้เกิดการลงโทษแต่พอสมควรภายในวัด เรียกว่าอาญาวัด เป็นเรื่องที่ชาวบ้านกลัวมากกว่ากฎหมายอีก เพราะว่าส่วนใหญ่หลวงพ่อเจ้าอาวาสก็มักจะเป็นพระอุปัชฌาย์อาจารย์มาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นตัวเอง ไปถึงรุ่นลูกของตน บางทีสามสี่ชั่วคน ท่านเป็นอาจารย์มาหมด ก็เลยเกรงใจ
โดยเฉพาะถ้าไปเจออย่างหลวงปู่ทา วัดพะเนียงแตก ถ้าวัดมีงาน ไม่ต้องไปตีกัน หลวงปู่ทาถือไม้พลองเดินตรวจวัด เจอจิ๊กโก๋ตีกันเมื่อไร ท่านโดดใส่ฟาดทั้ง ๒ ฝ่ายเลย จนกระทั่งเขาเรียกกันว่าหลวงพ่อเสือ
วัดพะเนียงแตกได้มาก็จากสิ่งที่ท่านทำนั่นแหละ ไปดูพลุ เขาจุดพลุกัน จุดพะเนียง จุดตะไล แล้วก็ตีกัน ท่านก็เลยเอามือไปปิดกระบอกพลุ ที่กำลังพุ่งอยู่สูงเป็นวา ๆ จนกระทั่งไฟพุ่งขึ้นไม่ได้ก็เลยระเบิดตูม..! เขาก็เลยเรียกหลวงพ่อพะเนียงแตก เรียกไปเรียกมากลายเป็นวัดพะเนียงแตก
เรื่องอาญาวัดสมัยก่อนศักดิ์สิทธิ์มาก สมัยนี้ศักดิ์สิทธิ์เฉพาะที่วัดท่าขนุนแห่งเดียว เพราะเจ้าอาวาสวัดอื่นไม่เตะโยมแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-05-2017 เมื่อ 16:17
|