หรือว่าอีกาคาบทองคำมาก้อนหนึ่ง ตกเป๊ง ! มากลางนอกชาน ดีใจ...เดี๋ยวก็กลุ้มใจ ! เดี๋ยวกลัวคนจะแย่ง กลัวคนจะปล้นหรือไปขายที่ไหนดี เดี๋ยวจะหาว่าเราขโมยใครเขามา.. ก็ทุกข์ทั้งนั้นแหละ ! ได้เงินมาไหหนึ่ง...หีบหนึ่ง.. มึงได้มาเต็มที่.. คนเขาก็เห็น ก็กลัวเขาแย่งไปแล้ว !
มันไม่มีทรัพย์อะไรหรอกลูก.. ที่มันเป็นรูปธรรมที่มือจับได้ ตาเห็นได้ จะสร้างความสุขให้สะเทือนใจถึงขั้นปลอดโปร่งโล่งอก...ไม่มีลูกไม่มี ! ลูกสอบได้ที่ ๑ เกียรตินิยมอันดับ ๑ ได้ที่ ๑ แล้วกำลังจะเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องทุกข์ในเรื่องกวดวิชา เรื่องกลัวลูกจะสอบไม่ได้ ทุกอย่างแหละใช่ไหมลูก?
แต่ถ้าหากอารมณ์ที่เป็นสุขตรงนั้นหมายความว่าหลับไป...ก่อนนอนภาวนาไป จิตหลับไปกับอารมณ์ที่ไม่มีนิวรณ์ไม่กังวล จิตก็พักเต็มที่ ร่างกายก็พักจิตก็พัก ตื่นขึ้นมามันผ่องใสขึ้นมาเฉย ๆ ไม่มีเหตุมีผล กราบพระต่อ ทำอารมณ์อันนั้นต่อ...ก็ใจสบายนั่นแหละ
ความสุขที่ไม่มีรูปธรรมมาเกี่ยวข้องนั่นแหละ ถึงจะเรียกว่าทำให้ใจปลาบปลื้มปีติยินดีได้
ศีลบริสุทธิ์..นึกถึงก็อิ่มใจ ขโมยก็ลักไม่ได้ ไม่มีกลัวใครเอาปืนมาแย่ง
“เอาศีลข้อ ๑ มา
พรุ่งนี้กูจะปล้นข้อ ๒ อีก มึงระวังเอาไว้”
เออ...มันไม่มีเรื่องอย่างนั้น จับลมหายใจ พุทโธ...พุทโธแล้วสบายเข้าถึงอุปจารสมาธิ เอามีดจี้
“เอาอุปจารสมาธิมา กูจะกิน กูอยากสบายใจ”
ไม่มีเรื่องอย่างนี้ ไม่มีการแย่งชิง ไม่มีความทุกข์นั่นแหละ ท่านบอกถึงจะเรียกว่า ‘พักทุกข์’
(มีต่อ)