ในเมื่อเห็นชัดแล้วว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้บังคับบัญชาไม่ได้ สั่งการไม่ได้ ทะนุถนอมเท่าไรก็ก้าวไปหาความเสื่อมอยู่เสมอ ก็แปลว่าไม่มีอะไรที่เป็นเราเป็นของเรา เพราะถ้าเป็นของเราต้องสั่งได้ ต้องบังคับบัญชาได้ เป็นต้น
เมื่อเราเห็นชัดเจนแล้ว ว่าสภาพร่างกายนี้ทั้งภายนอกภายใน มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีความทุกข์เป็นปกติ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวเราตัวเขาได้ ร่างกายของบุคคลอื่นก็เช่นกัน ร่างกายของสัตว์ต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน แม้กระทั่งวัตถุธาตุสิ่งของทั้งหลาย ก็ตกอยู่ใต้สภาพของไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้เช่นกัน ถ้าสภาพจิตของเราเห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นปกติ ยอมรับ...ถอนออกมาจากความต้องการทั้งหลายเหล่านั้น กามราคะย่อมไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นมารบกวนพวกเราได้ เราก็สามารถที่จะชนะกิเลสกองใหญ่ ๑ ใน ๔ กองนี้ ทำให้กามราคะไม่สามารถที่จะรบกวนเราได้
แต่ว่าโดยหลัก ๆ แล้วสำหรับท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่ากำลังปัญญาอ่อนอยู่ เราก็ต้องอาศัยอานาปานสติ อานาปานสตินั้นก็คือการดูลมหายใจเข้าออกของเรา สร้างกำลังสมาธิให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ แล้วเอากำลังสมาธิกดกามราคะให้ดับลงชั่วคราว หลังจากนั้นแล้วค่อยมาพินิจพิจารณาในการตัดละกันต่อไป
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2017 เมื่อ 19:07
|