แล้วพระสกทาคามีที่ทำให้ราคะโทสะเบาบาง จางลงจนเหมือนกับไม่มี จะมีความสุขขนาดไหน ? พระอนาคามีที่ตัดราคะกับโทสะได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ไม่ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว จะมีความสุขเพียงไร ? แล้วพระอรหันต์ที่พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดทั้งปวงจะมีความสุขเท่าไร ? พระพุทธเจ้าที่เป็นจอมของพระอรหันต์ เป็นผู้นำความรู้มาสั่งสอนจนบุคคลเข้าถึงความเป็นพระอรหันต์ ท่านจะมีความสุขมากเท่าไร ?
ใช้ปัญญาเพียงเล็กน้อยพิจารณาในลักษณะอย่างนี้ เราจะเห็นคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ชัดเจนหนักแน่นยิ่งขึ้น ความเคารพในพระรัตนตรัยจะแน่นแฟ้นอยู่ในใจของเรา การที่จะล่วงเกินด้วยกายด้วยวาจาก็จะค่อย ๆ หมดไปตามลำดับที่เราเข้าถึงความดี
เราก็แค่ใช้ปัญญาเพิ่มเติมว่า สภาพร่างกายนี้มีแต่ความทุกข์เป็นปกติ มีความเสื่อมสลายเป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าการเกิดใหม่เช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว มีความรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตายแน่นอน พูดง่าย ๆ ว่าทุกลมหายใจเข้าออกอยู่กับความตาย หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตายเช่นกัน เราต้องทำความรู้ตัวอยู่เสมอว่า การตายของเราครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ขึ้นชื่อว่าการเกิดใหม่จะไม่มีสำหรับเราอีก
แล้วเอาสภาพจิตของเราเกาะพระหรือเกาะพระนิพพานเอาไว้ พยายามรักษาอารมณ์ใจของเราให้ได้เช่นนี้ทุกวัน กฎเกณฑ์กติกาขั้นแรกที่จะพาเราพ้นจากอบายภูมิก็จะเป็นของเรา
ต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2018 เมื่อ 10:23
|