ดูแบบคำตอบเดียว
  #114  
เก่า 04-04-2018, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,264 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยแรก ๆ ที่ไปวัดท่าซุงช่วงประมาณปี ๒๕๑๘ ช่วงนั้นช่างประเสริฐเริ่มเข้ามาทำงานที่วัดท่าซุง ปั้นพระพุทธรูปสองสามองค์หน้าตาเหมือนกับตัวเองหมด หลังจากนั้นหลวงพ่อวัดท่าซุงก็สอนให้จุดธูปขอบารมีพระ ขอให้ท่านวิษณุกรรมเทพบุตรสงเคราะห์ ขอให้ทำออกมาได้มีเค้าหน้าใกล้เคียงกับพระบรมรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ช่างประเสริฐก็เริ่มทำออกมาต่างจากความเคยชินของตัวเองได้

ส่วนท่านอาจารย์สุชาติ ที่เมื่อวานเราไปโรงหล่อของท่าน ท่านอาจารย์สุชาติรู้ตัว รู้ว่าถ้าไม่ฝืนมือจะออกมาเป็นหน้าตัวเอง ท่านบอกว่าทุกครั้งท่านจะต้องนึกถึงพระเป็นหลักแล้วฝืนมือเอาไว้ พยายามให้ไปตามรูปลักษณ์ของพระที่ตัวเองนึกไว้ในใจ แต่ไม่ให้เป็นหน้าตัวเอง ...(หัวเราะ)... ถ้าหากว่าช่างที่ไม่รู้ตัวจะฝืนมือตัวเองไม่ได้ หน้าตาจะเหมือนตัวเองหมด

ท่านอาจารย์สุชาตินี่ต้องบอกว่ากำลังใจของท่านนี่ใช้ได้เลย ก็คือถ้าเป็นคนทั่วไปก็ต้องบอกว่าสังหรณ์แม่น แต่ความจริงนั่นคือผลของการที่ทุ่มเทสมาธิกับการงาน จนเกิดความรู้พิเศษขึ้นมาในลักษณะของทิพจักขุญาณ

ท่านไปที่ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายที่วัดท่าขนุนครั้งแรก ตอนที่ยังสร้างยังไม่เสร็จ ไปถึงพระที่รับสังฆทานอยู่ก็พาท่านไปทางด้านที่ตั้งมณฑป เพื่อให้ท่านดูสถานที่ เพื่อให้ท่านปั้นพระให้ได้ขนาดที่พอเหมาะ แต่ท่านอาจารย์สุชาติบอกว่าไม่ใช่ตรงนี้ แล้วก็เลี้ยวไปด้านที่ตั้งพระประธานนั่นแหละ

แสดงว่าจริง ๆ แล้วในส่วนของความเป็นทิพย์ของท่านก็มี ท่านเองก็คงจะมีประสบการณ์จนกระทั่งชินจึงยอมคล้อยตาม ถ้าหากว่าคนทั่ว ๆ ไปไม่คล้อยตามหรอก ต้องคิดว่าตรงนี้ใช่ แล้วก็ดื้อจะเอาตรงนั้นให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2018 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา