ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 31-05-2018, 20:47
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,547
ได้ให้อนุโมทนา: 318
ได้รับอนุโมทนา 74,987 ครั้ง ใน 3,693 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ดังนั้นในกลางคืนของขณะที่พระองค์ท่านทรงพระชนมายุ ๒๙ พรรษา ก็ได้ขี่ม้ากัณฐกะออกจากเมืองไปพร้อมกับนายฉันนะมหาดเล็ก ไปถึงริมฝั่งแม่น้ำอโนมาก็ได้ปลดเอาเครื่องประดับทั้งหลายส่งให้นายฉันนะ ตรัสว่าให้นำกลับไปทูลพระราชบิดาว่าเราออกบวชแล้ว หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็ตัดพระเมาลี (มวยผม) ด้วยพระขรรค์ แล้วอธิษฐานเพศเป็นนักบวช ซึ่งในกาลครั้งนั้นตำรากล่าวว่า ฆฏิการพรหมผู้เป็นใหญ่ ได้นำบริขาร ๘ ประกอบไปด้วย บาตร และจีวร เป็นต้น มาถวายให้กับเจ้าชายสิทธัตถะ

เมื่อองค์สมเด็จพระทศพลที่เป็นนักบวชใหม่ บวชขึ้นมาแล้วก็พยายามไปศึกษาค้นคว้าตามสำนักครูต่าง ๆ และสามารถที่จะเรียนรู้จนมีความสามารถเท่ากับครูทุกสำนัก แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเป็นทางหลุดพ้น โดยเฉพาะ ๒ สำนักสุดท้ายคือ อาฬารดาบส กาลามโคตร และอุทกดาบส รามบุตรนั้น พระองค์ท่านสามารถศึกษาได้จนถึงสมาบัติ ๘ ซึ่งถือว่าเป็นกำลังสมาธิสูงสุดที่จะพึงมีพึงได้

แต่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ คือ ผู้แสวงหาหนทางในการตรัสรู้นั้น ก็ยังเห็นว่านี่ก็ยังไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์ พระองค์ท่านจึงออกไปอยู่เพียงผู้เดียว เพื่อที่จะบำเพ็ญตบะ ซึ่งในสมัยนั้นนิยมด้วยการทรมานกาย เป็นต้น ก็มีปัญจวัคคีย์ คือ ฤๅษี ๕ ตน เป็นผู้เลื่อมใสในการออกบวชของเจ้าชายสิทธัตถะ ปวารณาตนคอยดูแลถวายการรับใช้อยู่
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา