พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ทางวัดท่าขนุนกำลังรอ QR Code อยู่ ซึ่งน่าจะได้แล้ว เมื่อได้มาแล้วอาตมาจะสแกน QR Code แล้วให้เอาขึ้นเว็บวัดท่าขนุนให้ ต่อไปญาติโยมก็ทำบุญผ่านตรงนั้นได้เลย ใครจะเอาโมทนาบัตรก็ทำบุญผ่านตรงนั้น ถ้าไม่เอาก็มาทำที่นี่ ...(บ้านเติมบุญ)... หรือไปทำที่วัด ซึ่งอาตมาว่าทำตรงนี้ได้เยอะกว่าอีก
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจ ที่ทำไปโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของข้อกฎหมาย เงินทำบุญเป็นเงินการกุศล โดยเฉพาะกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าวัดไม่ต้องเสียภาษี คงต้องมีการแก้กฎหมายกันยุ่งยากมากเลย เพราะว่าถ้าหากว่าเงินส่วนนี้ต้องเสียภาษี บรรดามูลนิธิทั้งหมดก็ต้องเสียด้วย เป็นอะไรที่ต้องบอกว่ากระทบเป็นลูกโซ่กว้างขวางมาก"
ถาม : เขาเอาไปทำประโยชน์อะไรคะ ?
ตอบ : เขาบอกว่าเงินในวงการสงฆ์ถ้ารวมกันแล้วมียอดหลายแสนล้าน ควรจะเอามาใช้พัฒนาประเทศ เพราะว่ามีเงินอยู่ก็เลยทำให้พระเสียหมด
ถาม : ใครรับกรรมคะ ?
ตอบ : ก็เรื่องของเขา เราจะไปสนใจอะไร คนริเริ่มก็รับไป ต้องบอกว่าเป็นวาระของเรา แล้วก็เป็นโอกาสของเขา เราจะเห็นว่าการแก้กฎหมายเพื่อแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ล่าสุดก็ผ่าน ๓ วาระในวันเดียว ถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนชนิดคอขาดบาดตาย จะมาผ่าน ๓ วาระในวันเดียวทำไม ? การแก้กฎหมายคณะสงฆ์ก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ว่าผ่าน ๓ วาระในวันเดียว
เราก็ค่อย ๆ ดูไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นในบ้านเราเมืองเรา ส่วนบรรดาท่านที่สร้างเวรสร้างกรรมอยู่กว่าจะรู้ก็ต้องตายไปแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็แก้ไขอะไรไม่ทันหรอก อาตมาถึงได้บอกว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปเยี่ยม รับประกันว่าจะไม่หัวเราะเยาะ จะไปแผ่เมตตาให้...!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2018 เมื่อ 02:41
|