ดูแบบคำตอบเดียว
  #13  
เก่า 07-10-2009, 12:49
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 96
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,987 ครั้ง ใน 1,665 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default กระแสพระนิพพาน(ต่อ)

ครูเขาถาม เดี๋ยวจะกลับพรุ่งนี้หลวงตาจะให้อารมณ์อะไรกลับไปคิด ก็อารมณ์พระโสดาบัน หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็สอน..หลวงปู่มั่นก็สอน.. สอนอารมณ์เดียวกับหลวงปู่บุดดา.. ทุกองค์รวมถึงพระเดชพระคุณพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนอารมณ์เดียว แต่ว่าการสอน..สอนคนละมุม

ถ้าคนเขามีจิตละเอียดจิตมีปัญญามากอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปสอนศพเละ(อสุภกรรมฐาน)ขนาดนั้น.. สอนเพียงแค่ว่า

"ร่างกายที่นั่งอยู่นี้ นั่งอยู่ได้เพราะมีธาตุลมยังเลี้ยงไว้ พอลมสลายไปร่างนี้ก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ลมพัดให้เคลื่อนไหวไม่ได้ก็นิ่งเฉย..เมื่อลมหายไป ไฟก็สลายออกไป ร่างนี้ก็เย็นเฉียบแข็งทื่อแล้ว..เมื่อลมกับไฟซึ่งเป็นตัวชีวิตตัวพลังงานไม่มี ดินกับน้ำก็คือดินน้ำปกติ เมื่ออยู่ด้วยกันย่อมทำลายกันให้เฉอะแฉะเน่าเปื่อยอยู่แล้ว.. แล้วหนอนบ่อนทั้งหลาย.. ชาติหนอนทั้งหลาย..ในจุลินทรีย์ในไข่ก็อาศัยเป็นที่ทำมาหากิน เหมือนเราอาศัยนาปลูกผัก ปลูกข้าว เขาก็อาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นนาสำหรับปลูกอาหารของเขา แมลงวัน กิ้งกือ จิ้งเหลน ก็ถือสิทธิ์มาแย่งกันตามปกติ เหมือนเราแย่งเงินแย่งทองกันแล้ว"

"ร่างกายอันเป็นดินน้ำลมไฟ ซึ่งเธอเคยอาศัย ที่จริงแล้วเธอคงรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ของใครตลอด.. อาศัยทำประโยชน์ชั่วขณะที่วิญญาณยังครองร่าง ใจยังครองร่างอยู่ เมื่อเธอหมดอายุขัย หมดสัญญา วิญญาณสลายไป ร่างกายแตกดับ น้ำก็เป็นน้ำ ดินก็เป็นดิน ลมก็เป็นลม ไฟก็เป็นไฟ ก็ไม่มีอะไรเหลือเป็นเราเป็นของเรา"

อารมณ์เขาละเอียดเป็นอย่างไร ท่านก็เทศน์มุมนี้

(มีต่อ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา