กระแสพระนิพพาน(ต่อ)
ครูเขาถาม เดี๋ยวจะกลับพรุ่งนี้หลวงตาจะให้อารมณ์อะไรกลับไปคิด ก็อารมณ์พระโสดาบัน หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็สอน..หลวงปู่มั่นก็สอน.. สอนอารมณ์เดียวกับหลวงปู่บุดดา.. ทุกองค์รวมถึงพระเดชพระคุณพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็สอนอารมณ์เดียว แต่ว่าการสอน..สอนคนละมุม
ถ้าคนเขามีจิตละเอียดจิตมีปัญญามากอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปสอนศพเละ(อสุภกรรมฐาน)ขนาดนั้น.. สอนเพียงแค่ว่า
"ร่างกายที่นั่งอยู่นี้ นั่งอยู่ได้เพราะมีธาตุลมยังเลี้ยงไว้ พอลมสลายไปร่างนี้ก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ลมพัดให้เคลื่อนไหวไม่ได้ก็นิ่งเฉย..เมื่อลมหายไป ไฟก็สลายออกไป ร่างนี้ก็เย็นเฉียบแข็งทื่อแล้ว..เมื่อลมกับไฟซึ่งเป็นตัวชีวิตตัวพลังงานไม่มี ดินกับน้ำก็คือดินน้ำปกติ เมื่ออยู่ด้วยกันย่อมทำลายกันให้เฉอะแฉะเน่าเปื่อยอยู่แล้ว.. แล้วหนอนบ่อนทั้งหลาย.. ชาติหนอนทั้งหลาย..ในจุลินทรีย์ในไข่ก็อาศัยเป็นที่ทำมาหากิน เหมือนเราอาศัยนาปลูกผัก ปลูกข้าว เขาก็อาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นนาสำหรับปลูกอาหารของเขา แมลงวัน กิ้งกือ จิ้งเหลน ก็ถือสิทธิ์มาแย่งกันตามปกติ เหมือนเราแย่งเงินแย่งทองกันแล้ว"
"ร่างกายอันเป็นดินน้ำลมไฟ ซึ่งเธอเคยอาศัย ที่จริงแล้วเธอคงรู้แล้วว่ามันไม่ใช่ของใครตลอด.. อาศัยทำประโยชน์ชั่วขณะที่วิญญาณยังครองร่าง ใจยังครองร่างอยู่ เมื่อเธอหมดอายุขัย หมดสัญญา วิญญาณสลายไป ร่างกายแตกดับ น้ำก็เป็นน้ำ ดินก็เป็นดิน ลมก็เป็นลม ไฟก็เป็นไฟ ก็ไม่มีอะไรเหลือเป็นเราเป็นของเรา"
อารมณ์เขาละเอียดเป็นอย่างไร ท่านก็เทศน์มุมนี้
(มีต่อ)
|