เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ จะขอกล่าวถึงเรื่องการปฏิบัติธรรมต่อจากเมื่อวานนี้ แล้วก็วันก่อนโน้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรมด้วยการกำหนดอานาปานสติ ควบกับพุทธานุสติ ควบกับอุปสมานุสติ ก็คือกำหนดลมหายใจเข้าออก ควบกับการนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระนิพพาน แล้วก็กำหนดลมหายใจเข้าออก ควบกับการระลึกถึงพระธรรม ควบกับพระนิพพาน
วันนี้มากล่าวถึงการนึกถึงลมหายใจเข้าออกควบกับพระสงฆ์ ซึ่งคำภาวนาก็คือใช้คำว่า “สังโฆ สังโฆ สังโฆ” หรือบางท่านที่มีความถนัดแล้ว ก็ควบ ๓ อย่างไปเลยคือ “พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ก็ได้ เพียงแต่ว่าถ้าหากว่ายังเป็นนักปฏิบัติใหม่ ๆ การระลึกถึงหลายอย่างพร้อมกัน จะไม่สามารถทำได้เด็ดขาดชัดเจน แล้วก็อาจจะสร้างความสับสนฟุ้งซ่านให้เกิดขึ้นได้ ต้องเลือกทำทีละอย่างเดียว
โดยให้น้อมระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ว่ามีอะไรบ้าง เป็นสุปฏิปันโน ปฏิบัติดี อุชุปฏิปันโน ปฏิบัติตรงต่อธรรม ญายปฏิปันโน ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามีจิปฏิปันโน ปฏิบัติชอบแล้วทั้งกาย วาจา และใจ เมื่อระลึกถึงจนใจของเราสงบ แล้วก็จับลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนาว่า “สังโฆ สังโฆ” ไป ถ้าหากว่าจิตสงบระงับไปตามลำดับจนเป็นสมาธิ เมื่อทรงตัวเต็มที่แล้ว สภาพจิตจะคลายออกมา เราก็หาวิปัสสนาญาณมาคิดพิจารณาแทน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2018 เมื่อ 02:42
|