พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนที่แล้วอาตมาจ่ายค่าเทอมอ่วมอรทัยเลย คือช่วงนี้ค่าใช้จ่ายการศึกษาประมาณเดือนละ ๒ แสนบาท แต่ถ้าค่าเทอมออกนี่เป็นล้านบาทเลย แม้กระทั่งวิทยาลัยสงฆ์ตอนนี้ค่าเทอมก็แพงมาก สมัยอาตมาเรียนอยู่ปริญญาตรี บางเทอม ๒๔ หน่วยกิต ค่าเทอมแค่ ๑,๘๐๐ - ๑,๙๐๐ บาท สมัยนี้ค่าเทอม ๖,๐๐๐ - ๗,๐๐๐ บาท นี่ขนาดถูก ๆ แล้วนะ แตกต่างกับสมัยนั้นขนาดไหน ?
ปริญญาโทอาตมาเรียนเต็มที่ไม่เกิน ๑๘,๐๐๐ บาท เดี๋ยวนี้ปริญญาโทเทอมหนึ่งปาไป ๓๐,๐๐๐ กว่าบาท ปริญญาเอกตอนที่เรียนอยู่ ๓๕๐,๐๐๐ บาท เดี๋ยวนี้เขาบอกว่า ๔๕๐,๐๐๐ บาท แล้วก็ได้โปรด...เป็นพระอยู่อย่าได้สึก เป็นฆราวาสอยู่กรุณาอย่าบวช ต้องเรียนให้จบก่อน เพราะว่าค่าเปลี่ยนชื่อ ๕,๐๐๐ บาท ก็คือถ้าบวชพระอยู่แล้วไปสึกเป็นฆราวาส จะเอาปริญญาบัตรเป็นนาย จ่ายมา ๕,๐๐๐ บาท หรือว่าเป็นนายอยู่ดี ๆ ดันทะลึ่งเป็นพระก็เตรียมไว้ ๕,๐๐๐ บาทเช่นกัน
เริ่มกลายเป็นระบบการค้าเต็มตัว ทำให้ห่างไกลจากวัตถุประสงค์ในการตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ของในหลวงรัชกาลที่ ๕ พระองค์ท่านตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ กำหนดว่าเอาไว้ศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาสูง คราวนี้จากการเรียนในรุ่นก่อน ๆ ก็คือ ครูบาอาจารย์ท่านสอนเพื่อสงเคราะห์พระเณรที่ไม่มีโอกาสเรียนทางโลก เพราะฉะนั้น..ค่าเทอมจึงต่ำมาก
มาระยะหลังนี้กฎเกณฑ์กติกาทุกอย่างกลายเป็นเตะสกัดพระเณรไม่ให้เรียน อย่างเช่นปริญญาโทต้องมีพื้นฐานคอมพิวเตอร์ ๑๗๐ คะแนน ต้องสอบ TOEFL ได้ ๓๐๐ คะแนนขึ้นไป ปริญญาเอกต้องมีพื้นฐานคอมพิวเตอร์ ๒๒๐ คะแนน ต้องสอบ TOEFL ได้ ๕๐๐ คะแนนขึ้นไป TOEFL ระดับนั้นต้องไปเรียนต่างประเทศ ไม่ใช่เรียนในบ้านเรา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 18:31
|