"เราเสียรู้เขามาตลอด แต่ว่าตอนนี้ดีใจอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ว่าพอหลวงหว่างตาย ก็ปลุกให้คนไทยตื่นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ที่อาตมาไม่ต้องเอากฐินลงไป เพราะว่าปิดยอดบริจาคที่ ๑๑,๒๔๕,๒๖๕ บาท ๙๔ สตางค์ มีหนี้อยู่เก้าแสนกว่าไปได้ ๑๑ ล้านกว่าบาท ก็เลยตั้งใจซื้อที่ขยายวัดออกไปอีก พอขึ้นถึงสี่ล้านอาตมาก็สั่งยุบขบวนรถไฟ คืนเขาไปเถอะ ไม่ต้องไปแล้ว
ถ้าเราไม่แสดงออกซึ่งความสามัคคีเหนียวแน่นกันแบบนี้ ก็โดนเขาตีตาย เพราะว่าแนวปฏิบัติของเราก็สู้เขาไม่ได้ เอาแค่พระเณรของเรามีวัดไหนบ้างที่สวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นทุกวัน น้อยมากนะ อาตมาไปอยู่ทองผาภูมิใหม่ ๆ ปี ๒๕๓๒ เขาสวดมนต์ทำวัตรกันเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา ลงปาฏิโมกข์กันเฉพาะช่วงเข้าพรรษา
อาตมาก็เลยดุไปเพราะว่าตัวเองอาวุโสกว่า บอกว่า “นี่คุณจะลองฉันข้าวเฉพาะช่วงเข้าพรรษาไหม ? ถ้าคิดว่าฉันข้าวเฉพาะช่วงเข้าพรรษาแล้วอยู่ได้ทั้งปีก็เอา” ท้ายสุดก็เลยฟื้นการทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็นขึ้นมา ฟื้นการลงปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือนตามพระธรรมวินัยขึ้นมา แล้วเราสู้เขาได้ไหม ? อิสลามเขาละหมาดวันละ ๕ เวลา ของเราแค่เช้าเย็นก็ยังน้อยกว่าเขาอีก ๓ เวลา
สามัคคีเราก็สู้เขาไม่ได้ สมาธิกำลังใจเราก็สู้เขาไม่ได้ เพราะว่าการซักซ้อมเราไม่มี ยังไม่ค่อยจะสำนึกกันเลย ถึงเวลาลำบากหน่อยก็ตะกายไปอยู่ที่อื่น บอกว่าวัดท่าขนุนบ้า ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นทั้งปี"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2019 เมื่อ 03:15
|