ถาม : มีครั้งหนึ่ง เด็กคนนี้ขึ้นไปนั่งบนมือพระพุทธรูป หนูเห็นแล้วตำหนิแฟน แฟนก็ยังยืนยันจะเถียงหนูอีกว่าไม่ได้ทำแบบนั้น คือทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นหนูจะสงสัยทุกครั้ง จะตำหนิแฟน แล้วเหมือนกับจะทะเลาะกันตลอดเลย ?
ตอบ : สรุปว่าเรามีปัญญามากกว่า แต่ยังมีปัญญาไม่จริง
ถาม : แต่เขาบอกว่าเขามีปัญญามากเลย เวลาหนูตำหนิจะเหมือนทะเลาะกันค่ะ หนูก็อึดอัดใจทุกครั้ง ?
ตอบ : จำเอาไว้ว่าสิ่งที่ถูกต้องในโลกก็คือหลักธรรม คราวนี้หลักธรรมมีทั้งสมมติและมีทั้งปรมัตถ์ สมมตินี่ก็คือสิ่งที่ชาวโลกเขาเชื่อถือกันว่าเป็นอย่างนั้น เคารพว่าเป็นอย่างนั้น ส่วนปรมัตถ์เป็นหลักธรรมที่แท้จริง ขัดแย้งไม่ได้ อย่างเช่นว่าทุกอย่างไม่เที่ยง ทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา
คราวนี้ในส่วนที่ชาวโลกสมมติแล้วเคารพกัน แล้วไปทำทะลึ่ง อย่างเช่นขึ้นไปนั่งบนฝ่ามือพระพุทธรูป เราก็รู้อยู่ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะใช่ ก็แปลว่าเรามีปัญญามากกว่า แต่คราวนี้ปัญญาของเราที่มากกว่านั้น เราแค่เห็นข้างนอก แต่เราไม่ได้เห็นตัวเอง คือเรายังเอาเรื่องนี้ไปขัดแย้งกับสามี ก็กลายเป็นประเภทบ้านแตกสาแหรกขาดเอาง่าย ๆ ทำไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งบ้า เออ ๆ คะ ๆ ตามเขาไป เพียงแต่อย่าไปทำตามเขาก็พอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2019 เมื่อ 08:06
|