ดังนั้น...จึงขอสรุปว่า ถ้าท่านทั้งหลายตั้งใจปฏิบัติธรรมแล้ว อันดับแรก...พยายามตัดความอยากออกจากใจให้ได้ เรามีหน้าที่ปฏิบัติ ผลจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ช่างมัน ข้อที่สอง...ศึกษาแนวทางของครูบาอาจารย์ให้ชัดเจน แม่นยำ จะได้ทำได้ถูกต้อง
ข้อที่สาม....ต้องพากเพียรชนิดมอบกายถวายชีวิต เรียกว่าถึงตายลงไปก็ยอม เพื่อแลกกับผลการปฏิบัติที่จะพึงมีพึงได้ ข้อต่อไป...กำลังใจของเราต้องปักมั่นแน่วแน่ต่อเป้าหมาย ไม่สำเร็จไม่เลิกเด็ดขาด และข้อสุดท้ายต้องหมั่นไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ๆ ว่า เราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ? เหลือระยะทางใกล้ไกลเท่าใด ? แล้วก็แก้ไขไป
ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทำตามองค์ประกอบทั้งหลายเหล่านี้อย่างครบถ้วน ความก้าวหน้าในการปฏิบัติจนกระทั่งถึงเป้าหมายสูงสุด คือการหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ก็จะพึงมีพึงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย ตามวาสนาบารมีที่สั่งสมมา
ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2019 เมื่อ 21:52
|