พระของเราลำบากตรงที่ว่าจะไปไหน กลายเป็นเกะกะไปหมด บางท่านไม่ได้ระวังตัวเอง ญาติโยมก็ต้องระวังตาม แล้วเดี๋ยวนี้โยมก็เก่งมาก ระวังจนกระทั่งงานไปไม่ได้ คำว่างานไปไม่ได้ อย่างเช่นอาตมาแจกหนังสือ แจกวัตถุมงคล โยมก็ไม่กล้ารับ เพราะกลัวว่ารับของจากมือพระ ถ้าลักษณะนั้นท่านทั้งหลายเข้าใจผิด
การรับของที่เนื่องด้วยมือพระนั้น ท่านบอกว่า ถ้าพระมีจิตกำหนัดจะต้องอาบัติทุกกฎ ซึ่งก็คืออาบัติตัวเล็กเท่ากับจับสตางค์ คราวนี้เราเองไม่ได้มีจิตกำหนัด พระท่านส่งให้ก็รับไปเถอะ
พวกเรามักจะรู้มาก รู้เกิน แล้วก็ปรับตนเองตามหน้างานไม่เป็น ในสถานการณ์ที่คนจำนวนมาก ๆ ต้องรีบเข้า รีบทำบุญ แล้วรีบออก ไม่ใช่มาค่อย ๆ มาบรรจง
โดยเฉพาะส่วนหนึ่งที่อาตมาใช้คำว่า "เสนอหน้า" ก็คือต้องให้รู้ว่ามาแล้ว ทำบุญแล้ว ขอบอกว่างานแบบนี้ไม่ต้องมาเสนอหน้า ทำบุญแล้วออกไปได้เลย ถ้ามัวแต่เสนอหน้าอยู่ คนอื่นก็จะช้า กลายเป็นเราไปขวางทางบุญคนอื่นโดยไม่เจตนา เมื่อถึงเวลาทำอะไรมีอุปสรรคเกิดขึ้นในชีวิต เราก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ก็เพราะว่าท่านไปขวางทางบุญของคนอื่นเขา จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนา แค่อยากจะเสนอหน้าหรืออะไรก็ตาม แต่กลายเป็นโทษไปโดยไม่รู้ตัวแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2019 เมื่อ 17:23
|