คำสอนสมเด็จองค์ปฐม
อารมณ์มัจฉริยะ (ความตระหนี่-ขี้เหนียว)
กับเวลาและความตายไม่คอยใคร
เจ้าอยู่กับโลกก็จำเป็นจักต้องรู้ธรรมของโลกด้วย แต่รู้เพียงสักว่ารู้
จักได้รู้เท่าทันโลก แต่ไม่ติดอยู่ในธรรมของโลก
มิใช่อะไร ๆ ก็ไม่รู้ ก็ต้องตกเป็นทาสของความโง่ คือไม่รู้อยู่ร่ำไป
จงอย่าเสียดายเงิน เสียดายเวลา ซึ่งไม่เที่ยง
หากจักนำมาเปรียบเทียบกับการที่ต้องเสียอารมณ์ไปเพราะเหตุเหล่านั้น
เป็นการเบียดเบียนจิตตนเอง ขาดเมตตาจิตตนเอง ทำร้ายจิตตนเองโดยความโง่
ให้ใช้อริยสัจเป็นหลักสำคัญ ในการแก้ปัญหาทุกอย่าง ทั้งทางโลกและทางธรรม
อารมณ์มัจฉริยะ ความตระหนี่ขี้เหนียว ก็คือ อารมณ์หวงเงิน ทอง ทรัพย์สินต่าง ๆ
ให้ระมัดระวังอารมณ์นี้เอาไว้ให้ดี ๆ จงหมั่นกำหนดรู้เข้าไว้ มีลาภ เสื่อมลาภ
มีทรัพย์สินเงินทอง สักวันหนึ่งก็เสื่อมไป เป็นธรรมดาของกฎของธรรมชาวโลก
ทุกอย่างหนีสันตติไม่พ้น หนีกฎของไตรลักษณ์ไม่พ้น
มีเกิด มีเสื่อม มีดับเป็นธรรมดา เจ้าจงอย่าเกาะยึดอารมณ์นี้
รู้เท่าทันไตรลักษณ์เข้าไว้ จิตจักได้สบายใจ
นี่แหละอารมณ์มัจฉริยะ ขี้เหนียว ตระหนี่แม้แต่เวลาจึงเป็นทุกข์ เพราะเวลาซึ่งหาความเที่ยงไม่ได้
เมื่อเวลาไม่เที่ยง เจ้าไปยึดเวลาจึงสร้างทุกข์ให้กับจิตและกายของเจ้าเอง
เหตุเพราะจิตเจ้าไม่อยู่ในธรรมปัจจุบัน
ตั้งความปรารถนาจักกลับมาทำงานในเวลาแห่งอนาคต
แต่กิจปัจจุบันของเจ้ายังทำไม่เสร็จ เวลามันไม่คอยท่า ก็เคลื่อนไปอยู่เรื่อย
กิจปัจจุบันทำไม่ดี จิตก็ไม่ดี จดจ่ออยู่แต่กิจในอนาคต สุดท้ายจึงเหลวหมดด้วยประการทั้งปวง
นี่เป็นธรรมภายนอก ซึ่งเจ้าสามารถจักนำมาเป็นบทเรียนสอนธรรมภายในให้แก่จิตของตนเองได้
เวลานี้ความฟุ้งซ่านเกิด จิตของเจ้าก็ย่อมอยู่ในธรรมปัจจุบันเช่นกัน
มัวแต่ไปพะวงถึงธรรมในอนาคตซึ่งยังมาไม่ถึง กิจปัจจุบันทำไม่ดี เจ้ารู้เวลาที่เคลื่อนที่ไปหรือไม่
ความตายกำลังเข้ามาใกล้ทุกที จิตฟุ้งคือจิตมีอารมณ์ประมาท เสียดายเวลา แต่ไม่รู้จักใช้เวลาให้เป็น
ปล่อยเวลาให้เคลื่อนไปในปัจจุบัน มัวแต่พะวงอยู่ในธรรมอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
สุดท้ายก็คว้าอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว อย่างนี้ดีนะหรือ
เมื่อรู้ว่าไม่ดี คิดไม่ถูก ก็จงหมั่นปรับปรุงแก้ไขอารมณ์ของใจเสียใหม่
เพื่อให้เข้าใจและรู้จักใช้เวลาในธรรมปัจจุบัน ให้เป็นประโยชน์สืบไป
จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน