"การสร้างเขื่อนไซยะบุรีของลาว คนไทยไปประท้วง ลาวบอก “กลับไปซะ..ไม่กลับจะยิง” จบเลย ดูซิว่าจะมีปัญญาประท้วงอีกไหม ? บ้านเราจะทำโครงการโขงชีมูล ผันน้ำจากแม่น้ำโขงมาก็มัวแต่เกรงใจ ของเราแค่ผันน้ำ ไม่ใช่เก็บกักน้ำ ก็คือเปิดช่องทางให้แม่น้ำโขงไหลเพิ่มเข้ามาสู่แม่น้ำชีแม่น้ำมูล แต่ปรากฏว่าถ้าไม่ใช่นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามคอยคัดค้าน เพราะว่ากลัวอีกฝ่ายจะได้คะแนนเสียง ก็กลายเป็นว่าเกรงใจเพื่อนบ้าน
อาตมาได้ยินโครงการโขงชีมูลมาตั้งแต่เด็ก จนป่านนี้ก็ยังเป็นแค่โครงการ ในขณะที่จีนสร้างเขื่อนเสร็จไป ๗-๘ เขื่อนแล้วตลอดลำน้ำ ของลาวก็สร้างแล้วสร้างอีก แต่คนไทยเรายังไม่ได้ขยับสักที
ถ้าจะทำในลักษณะอย่างนั้นต้องดูอย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ท่านสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กระทบชาวบ้านแค่พื้นที่ประมาณ ๗๐๐ ไร่เท่านั้น และกระทบเฉพาะหน้าฝน เพราะว่าน้ำในเขื่อนจะเอ่อไปถึง พอหน้าแล้งก็กลายเป็นที่อุดมสมบูรณ์อยู่หลายเดือน สามารถกลับไปทำกินในที่เดิมได้ เงินค่าเวนคืนก็ได้ สิทธิทำกินก็ยังคงอยู่ แม้ว่าจะไม่เต็มทั้งปี ซึ่งปกติก็ทำเต็มทั้งปีไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่ามีหน้าแล้ง
ปัจจุบันนี้หน้าแล้งทำกินได้ หน้าฝนทำกินไม่ได้ ก็แค่ตรงกันข้ามเท่านั้น ไม่ใช่ประเภทถึงเวลาก็ทำโครงการใหญ่โตมหึมา ต้องล้างผลาญป่าทีหนึ่งหลาย ๆ แสนไร่ โดยเฉพาะไปทำแถวแก่งเสือเต้นซึ่งเป็นดงไม้สักใหญ่ เป็นป่าสมบูรณ์ ถ้าลักษณะอย่างนั้นไม่มีใครยอมคุณหรอก เพราะเขาถือว่าคุณ "มีงาน" ตั้งใจทำอะไรที่มากกว่าเขื่อนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2020 เมื่อ 02:53
|