ดังนั้น...หน้าที่ของเราก็คือตระหนักรู้ว่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั้น ย่อมจะมีมาสู่เราเป็นปกติ ต้องระมัดระวังป้องกัน บริหารร่างกาย ออกกำลังให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานโรค ระมัดระวังป้องกันตนเองด้วยการกินยารักษาโรคบ้าง ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรคบ้าง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อให้พ้นจากเชื้อโรคบ้าง
โดยที่มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่า ถึงเราจะดูแลดีอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดร่างกายนี้ก็ต้องตาย ต้องพัง แม้ว่าจะไม่ตายด้วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ก็อาจมีอุบัติเหตุอันตรายหรือโรคภัยอื่น ๆ เกิดขึ้นกับเรา แล้วก้าวไปสู่ความตายอยู่ดี ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายเป็นรังของโรคนี้เราไม่ต้องการอีก การเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ที่เดียวที่เราปรารถนาคือพระนิพพาน
เมื่อคิดคำนึงถึงในส่วนของการจะหลุดพ้น ให้เกาะพระนิพพานไว้เป็นที่สุดเสมอ แล้วเราก็บริหารดูแลร่างกายนี้เพื่อเอาไว้ทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา อาศัยร่างกายที่หาความเที่ยงไม่ได้นี้ มีแต่ความทุกข์นี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรานี้ ในการสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อนำพาเราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:15
|