"ท่านทั้งหลายจึงต้องอยู่กับลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติ จนสภาพจิตมีการตื่นรู้ กำหนดการภาวนาเองโดยอัตโนมัติ แล้วเราใช้สตินั้นประคับประคองการตื่นรู้เอาไว้ อย่าเผลอให้หลุดไปไหน ถ้าอย่างนั้นท่านก็จะพ้นมือกิเลสได้ชั่วคราว เพราะว่าสภาพจิตที่อยู่กับปัจจุบันธรรม ไม่สามารถเกิด รัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นมาได้
แต่ถ้าเผลอหลุดไปเมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะมาเป็นฟ้าถล่มดินทลาย เพราะว่าโดนเก็บกดเอาไว้ กิเลสกลัวว่าตัวเองจะตาย ถึงเวลาก็ดิ้นรนอย่างเต็มที่ ท่านก็จะประสบกับอาการกรรมฐานแตก จิตตก สมาธิตก ซึ่งสำหรับนักปฏิบัติแล้ว ก็เหมือนกับตกนรกดี ๆ นี่เอง..!
ฉะนั้น.. ต้องพึงระวังเอาไว้เสมอ ถึงการอยู่กับลมหายใจเข้าออก จะเป็นการพ้นกิเลสแค่ชั่วคราว ก็ขอให้ได้พ้นไปก่อน สภาพจิตที่ไม่ส่งส่ายวุ่นวาย ย่อมพาให้ปัญญาเกิด แล้วจะเห็นช่องทางว่า ทำอย่างไรจะรักษาความสงบเย็นของจิต เอาไว้ให้ได้นานเท่าที่เราต้องการ จนกว่ากำลังของสมาธิและปัญญาจะเพียงพอ ในการประหารฆ่ากิเลสลงไปได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 03:29
|