ในเรื่องของพระ ตลอดจนกระทั่งโยม ที่ได้ทิพจักขุญาณ จะต้องมีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่า เราทำอะไรอยู่ และโดยเฉพาะเรื่องที่รู้จะพูดได้แค่ไหน ถ้าขาดตรงนี้ละก็คุณเอ๊ย....ถ้าคนเขาไม่เห็นด้วยว่าเป็นผู้วิเศษก็ว่าเราบ้าเลย..!
เขาจะเห็นอยู่แค่ ๒ อย่าง ถ้าเห็นว่าเป็นผู้วิเศษก็จะมากวนเช้า กวนกลางวัน กวนเย็น ดีไม่ดีก็จะมาขอหวยด้วย แต่ถ้าหากเขาไม่เชื่อเขาก็จะว่าบ้า ถ้าเราเป็นพ่อเป็นแม่แล้วไม่เข้าใจเรื่องนี้ รับรองได้ว่าเครียด คิดว่าลูกเป็นบ้า นั่งพูดอยู่คนเดียว
ดังนั้นว่านักปฏิบัติพอทำไปจนกระทั่งเกิดทิพจักขุญาณขึ้นมา ถ้าเกิดรู้อะไรขึ้นมาให้ถามด้วยนะ ว่าบอกต่อได้เท่าไร บางเรื่องที่เขาบอกเขาห้ามพูดต่อ บางเรื่องบอกมาเยอะแยะแต่ให้พูดนิดเดียว คนที่เก็บความลับไม่เป็นนี่อกจะแตกตาย..!
ถาม : คือเขาให้บอกเท่าไรก็พูดเท่านั้น บอกมากกว่านั้นไม่ได้ ?
ตอบ : ใช่..พูดเกินนั้นเดี๋ยวก็ซวยเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-02-2014 เมื่อ 19:40
|