ถ้าหากว่าเราทำกำลังใจของเราในด้านมโนมยิทธิไปเรื่อย เกาะพระไปเรื่อย เดี๋ยวพอกำลงใจมันทรงตัว ของเก่ามันมาทั้งหมดเอง ตอนนี้เราไม่สามารถใช้อภิญญาเต็มที่ได้ทั้ง ๆ ที่อดีตเราเคยทำมาแล้วเพราะว่า เรายังไม่ยอมรับกฏของกรรมอย่างจริงจัง
อภิญญานี่ถ้ามันเต็มสภาพเต็มกำลังของมันนี่มันฝืนกฏของกรรมได้ เห็นคนป่วยมาคิดให้เขาหายป่วยก็หาย เห็นคนง่อยมาคิดให้เขาหายง่อยก็หาย มันหายเดี๋ยวนั้นเลยเพราะเป็นการอธิษฐานอำนาจของกสิณโดยเฉพาะธาตุ ๔ คราวนี้พวกเราถ้าไม่ยอมรับกฏของกรรม เห็นปั๊บสงสารช่วยเขา จะทำเอากฏของกรรมอลเวงไปหมด เพราะว่าเราลืมดูไปว่าเขาเป็นอย่างนั้น เพราะอดีตทำอะไรมา เขาก็มีกรรมที่จำเป็นที่เขาจะต้องรับ ดังนั้นว่าตราบใดที่เรายังไม่ยอมรับกฏของกรรมอย่างจริงจังนี่โอกาสจะใช้อำนาจอภิญญาได้เต็มที่อย่างอภิญญาใหญ่นั้นอย่าหวังเลย โดนล๊อคหมด จะได้โล่งใจซะที ไม่งั้นมันจะคิดอยู่นั้นละ เอ๊ะ ....ทำได้ขนาดนี้ อภิญญาไม่เกิดซะที เกิดเมื่อไหร่บรรลัยเมื่อนั้นล่ะ โดยเฉพาะพวกเรามันเชื้อสายพุทธภูมิเก่า คือผู้ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้า คนที่ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้านี่ คนอื่นลำบากแค่ไหนตัวเองก็ยอมช่วยเขา ช่วยเขาโดยไม่เห็นแก่ความลำบากของตัวเอง ในเมื่อทำในลักษณะนั้นมันจะเผลอไปฝืนกฏของกรรม ลองดูซิพอได้แล้วลองไปช่วยใครเข้าซักยกหนึ่งเดี๋ยวมันก็เสื่อม นี่ไม่ใช่กำลังใจเราเสียเอง บางที่ท่านตัดผลมันไปเสียดื้อๆ ถ้าหากไปฝืนกฏของกรรม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทิดตู่ : 06-05-2009 เมื่อ 15:55
|