ดูแบบคำตอบเดียว
  #12  
เก่า 24-11-2009, 09:55
ตัวแสบจำเป็น's Avatar
ตัวแสบจำเป็น ตัวแสบจำเป็น is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
สถานที่: บางกอก
ข้อความ: 116
ได้ให้อนุโมทนา: 18,697
ได้รับอนุโมทนา 24,609 ครั้ง ใน 954 โพสต์
ตัวแสบจำเป็น is on a distinguished road
Default ท่านจิตโต ที่บ้านสบายใจ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

วิปัสสนูปกิเลสกับวิปัสสนาญาณต่างกันตรงที่ วิปัสสนูปกิเลสเกิดจากการที่
เราตั้งใจคิด ตั้งใจตรึกไตร่ตรอง คือเอาธรรมมาคิด มาตรึกไตร่ตรองนะ
แล้วก็ไม่ได้เกิดญาณอันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมาเอง
แต่ถ้าเป็นวิปัสสนาญาณ
หมายถึงว่ามันตรึกไตร่ตรองแล้วเกิดญาณอันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมาเอง
อันนั้นเขาเรียก วิปัสสนาญาณ ญาณที่แปลว่าเครื่องรู้

วิปัสสนูปฯ มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นเครื่องรู้ มันต่างกันตรงนี้ อุปมาว่า คล้ายกับ
ทิพจักขุญาณ ทิพจักขุนี่คือสิ่งที่มองความเป็นทิพย์ใช่ไหม? แต่ถ้าไม่มีญาณ
อันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมา ก็ไม่ถือว่าเป็นทิพจักขุญาณ อย่างกับว่าเดามั่วเอา
ที่เรียกว่านึกไปเอง

แต่ถ้าญาณ ก็คือมันเกิดมาจากความสงบ แล้วมันผุดเกิดขึ้นมาเอง เขาเรียก
ว่าญาณ ในวิปัสสนาญาณก็คือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเองในจิตใจของเรา อาจจะ
เกิดขึ้นมาแค่แวบสั้น ๆ แค่คำ ๒ คำ แต่เราเกิดความเข้าใจในคำนั้น แล้ว
ก็ทำให้สิ่งที่เป็นความเคลือบแคลงสงสัยของเรามันจบไป
ญาณก็เกิดแบบนี้
เขาเรียกวิปัสสนาญาณ

แต่ถ้าเป็นวิปัสสนูปกิเลสนี่ มันเป็นเรื่องที่เราอยากได้มรรค ได้ผล เราก็ทำ
มันไป เอาธรรมมาใคร่ครวญอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ พอใคร่ครวญแล้วก็คิดว่า
ตัวเองเข้าใจในธรรมนั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เข้าใจหรอก เพราะมันเป็น
เรื่องของสัญญา มันไม่มีญาณ
จำไว้นะ มันต้องมี ญาณ


ท่านจิตโต ที่บ้านสบายใจ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
__________________
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา