ท่านจิตโต ที่บ้านสบายใจ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
วิปัสสนูปกิเลสกับวิปัสสนาญาณต่างกันตรงที่ วิปัสสนูปกิเลสเกิดจากการที่
เราตั้งใจคิด ตั้งใจตรึกไตร่ตรอง คือเอาธรรมมาคิด มาตรึกไตร่ตรองนะ
แล้วก็ไม่ได้เกิดญาณอันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมาเอง แต่ถ้าเป็นวิปัสสนาญาณ
หมายถึงว่ามันตรึกไตร่ตรองแล้วเกิดญาณอันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมาเอง
อันนั้นเขาเรียก วิปัสสนาญาณ ญาณที่แปลว่าเครื่องรู้
วิปัสสนูปฯ มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นเครื่องรู้ มันต่างกันตรงนี้ อุปมาว่า คล้ายกับ
ทิพจักขุญาณ ทิพจักขุนี่คือสิ่งที่มองความเป็นทิพย์ใช่ไหม? แต่ถ้าไม่มีญาณ
อันเป็นเครื่องรู้ขึ้นมา ก็ไม่ถือว่าเป็นทิพจักขุญาณ อย่างกับว่าเดามั่วเอา
ที่เรียกว่านึกไปเอง
แต่ถ้าญาณ ก็คือมันเกิดมาจากความสงบ แล้วมันผุดเกิดขึ้นมาเอง เขาเรียก
ว่าญาณ ในวิปัสสนาญาณก็คือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเองในจิตใจของเรา อาจจะ
เกิดขึ้นมาแค่แวบสั้น ๆ แค่คำ ๒ คำ แต่เราเกิดความเข้าใจในคำนั้น แล้ว
ก็ทำให้สิ่งที่เป็นความเคลือบแคลงสงสัยของเรามันจบไป ญาณก็เกิดแบบนี้
เขาเรียกวิปัสสนาญาณ
แต่ถ้าเป็นวิปัสสนูปกิเลสนี่ มันเป็นเรื่องที่เราอยากได้มรรค ได้ผล เราก็ทำ
มันไป เอาธรรมมาใคร่ครวญอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ พอใคร่ครวญแล้วก็คิดว่า
ตัวเองเข้าใจในธรรมนั้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เข้าใจหรอก เพราะมันเป็น
เรื่องของสัญญา มันไม่มีญาณ จำไว้นะ มันต้องมี ญาณ
ท่านจิตโต ที่บ้านสบายใจ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
__________________
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง
|