ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"โยมมีแผ่นซีดีธรรมะของหลวงพ่อฤๅษีบ้างหรือเปล่า..? นอนเต็มที่แล้วแน่นะ หลวงพี่เป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนไม่หลับ สงสัยคงไม่หลับยันเช้า ดีแล้วละ..จะได้นั่งเป็นเพื่อนโยม"
โยมหม่อม:"มีครับหลวงพี่..เปิดได้เลยครับ"
พอกระผมเปิดเครื่องเสียงในรถ ปรากฏว่า ไฟล์ที่ขึ้นมา เป็นไฟล์เสียงชุมนุมเทวดา ใจจริงก็อยากจะปิด แต่ก็คิดขึ้นมาว่า ก็ดีเหมือนกัน ท่าน ๆ เทวดาทั้งหลายจะได้มาช่วยคุ้มครอง หลังจากนั้นแผ่นก็วิ่งเองไปที่ไฟล์เสียงอุทิศส่วนกุศล ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร มองไปสองข้างทางเรายังวิ่งอยู่บนถนนนิคมฯอยู่เลย สองข้างทางก็มืด มีรถของคณะเราคันเดียวที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นนี้.....ไม่กี่ช่วงอึดใจ รถเราก็แล่นออกถนนใหญ่ มองดูนาฬิกาในรถตีสองยี่สิบนาที กระผมเองก็ช่วนโยมหม่อมคุยโน่นคุยนี่ไปเรื่อย ๆ
ผ่านไปช่วงหนึ่ง กระผมจำไม่ได้ว่าช่วงนั้นเขาเรียกว่าตำบลหรือ หมู่บ้านอะไร เท่าแต่ทราบว่าเราวิ่งมาจากปากทางนิคมไม่นานประมาณแค่สิบห้านาทีเอง ระหว่างที่คุยสายตามันก็เห็นว่ามีเด็กสองคนใส่ชุดนักเรียน ยืนอยู่ข้างทาง ยืนหันหลังให้รถเรา ที่กระผมสังเกตเห็นอีกอย่างคือ มีมอเตอร์ไซค์เก่า สภาพยับเยินอยู่ข้าง ๆ ตรงนั้นด้วย
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"เด็กสมัยนี้มันขยันเรียนนะ เตรียมตัวไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าตรู่"
โยมหม่อม:................(เงียบ)
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"โยมเห็นเด็กนักเรียนเมื่อกี้ หรือเปล่า ? (ชักรู้สึกแปลก ๆ ใจว่าทำไมโยมเงียบไป)"
โยมหม่อม:"เอ้อ....เห็น ๆ ครับหลวงพี่ ก็นั่งมาด้วยกัน เห็นแต่ไกลเลยครับ"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"เออ..นั่นสิ แล้วทำไมโยมหน้าซีด ๆ ล่ะ หลวงพี่เห็นโยมนิ่งไปนะเมื่อกี้.....เด็กต่างจังหวัดมันขยันแบบนี้แหละ"
โยมหม่อม:"กระผมว่าท่าจะไม่ค่อยดีนะครับหลวงพี่..หลวงพี่ลองดูนาฬิกาก่อนสิครับว่า ตอนนี้มันตีสองสี่สิบนาทีเองนะครับหลวงพี่..มันผิดปกตินะครับ"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"เออ..จริงสิ โยมเด็กมันคงไปเรียนที่กรุงเทพฯกระมัง ? ที่โยมเห็นเป็นอย่างไรล่ะ..ลองว่ามาซิ"
โยมหม่อม:"ผมเห็นเด็กผู้หญิงสองคนครับ ยืนหันหลังอยู่ สะพายกระเป๋าด้วยครับ แล้วที่หลวงพี่ว่าเด็กไปเรียนกรุงเทพฯ กระผมว่าออกเดินทางตอนตีสี่ตีห้าไปยังทันเลยครับ โรงเรียนเข้าแปดโมงเช้านะครับ แล้วคงเรียนแถว ๆ ชานเมือง หรือไม่ก็ไม่ได้เรียนที่กรุงเทพ เรียนที่ตัวเมืองกาญจน์หรือนครปฐมจะดูมีเหตุผลมากกว่านะขอรับ"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"แต่หลวงพี่เห็นเป็นเด็กผู้ชายถือกระเป๋า ประมาณเด็ก ม.๑ แล้วข้าง ๆ มีเด็กผู้หญิงสะพายเป้ ตรงมุมมืดหลวงพี่เห็นมอเตอร์ไซค์เก่า ๆ ด้วยนะ เราย้อนไปดูดีกว่าโยม"
โยมหม่อม:"กระผมว่าอย่าเลยครับหลวงพี่ กระผมว่าท่าจะไม่ดีแล้ว ผมรู้สึกขนลุกไปหมดแล้วครับ ถ้าไปแล้วไม่เจอ หรือเจอในสภาพที่เละ ๆ จะทำอย่างไรละครับหลวงพี่ ?"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:"มากับหลวงพี่กลัวอะไรวะ..? งั้นอย่าวกกลับดูไปมันเลย
" (ตอนนั้นก็เริ่มกลัว ๆ ขึ้นมาเหมือนกันครับ) ไหนลองหาเหตุผลมาดูสิ ว่ามันจะเป็นคนหรือ..?"
โยมหม่อม:"บรรยากาศแบบนั้น เวลานั้น กระผมจ้างหลวงพี่หนึ่งพันบาทไปยืนตรงนั้น หลวงพี่จะกล้าหรือเปล่าขอรับ ?"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์:..........(เงียบแบบคุมเชิง
) "เอ้อ..เอ้อ แล้วโยมล่ะ กล้าหรือเปล่า ?"
โยมหม่อม:"จ้างผมเท่าไรก็ไม่เอาหรอกครับ แล้วเด็กอายุขนาดนั้นที่ไหนมันจะกล้ามายืนที่เปลี่ยว ๆ ถึงจะไม่ยืนคนเดียวก็ตามเถอะขอรับ เดี๋ยวโจรมันก็ลากไปพอดีครับ"
ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์....
(หน้าซีดและพยายามทบทวนเหตุการณ์) "สงสัยงานนี้เราจะเจอของจริงเข้าแล้วละโยม หลวงพี่สังหรณ์ใจตั้งแต่ตอนเปิดไฟล์เสียงหลวงพ่อแล้วโดยเฉพาะไฟล์เสียงอุทิศส่วนกุศล
รีบ ๆ ขับไปก่อนเถอะโยม"
"บุญใดหลวงพี่ทำมาดีแล้วหลวงพี่ขออุทิศให้เป็นการเฉพาะเลยนะ ขอพวกเธอทั้งสองโมทนาด้วย แล้วไม่ต้องไปดักหลวงพี่ที่ป้ายหน้านะ..โอเคแล้วนะ"
โยมหม่อม:"บุญใดที่กระผมทำมาดีก็ขออุทิศให้เช่นกัน อิทัง ปุญญะ ผะลัง..ฯ"
ยังไม่ทันขาดเสียงโยมหม่อมกล่าวอุทิศเลย กระผมก็มองไปข้างทางเจอเข้าอีกตนหนึ่ง....
(เดี๋ยวจะไปฟ้องหลวงพ่อว่า พวกเรารังแกฉัน) งานนี้กระผมปิดปากเงียบสนิทไม่ได้บอกโยมหม่อม เพราะมันพูดไม่ออก ลิ้นมันตันจุกปากไปหมด.....บทจะเจอพวกก็มาให้เจอแบบ "จะ จะ"