หลังจากทักทายญาติโยมที่บ้านโยมต้อมได้ไม่นาน พระอาจารย์เผื่อน ท่านก็เดินทางมาถึง นับเป็นบุญของกระผมอีกครั้งช่วงที่พักอยู่กรุงเทพฯ สามวันกับพระอาจารย์เผื่อนนั้น กระผมได้ข้อธรรมและประโยชน์อีกมากมายที่ท่านเมตตาสั่งสอน ท่านได้เล่าประวัติส่วนตัวของท่านตั้งแต่ท่านยังเป็นฆราวาสจนกระทั่งได้บวชที่วัดท่าซุง เส้นทางเดินของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน กว่าที่ท่านจะมายืนได้จนถึงจุดนี้นั้น เส้นทางที่ท่านเดินนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย ความเสียสละของแต่ละท่านนั้นนับเป็นความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวทั้งสิ้น เพื่อให้ถึงซึ่งทางสว่างสูงสุดในพระพุทธศาสนา
คืนแรกกระผมและพระอาจารย์เผื่อนจำวัดที่บ้านโยมต้อม คืนที่สองกระผมจำวัดที่บ้านโยมซัน พระอาจารย์ท่านพักที่บ้านทิดตู่ ช่วงกลางวันโยมซันกราบนิมนต์เรียนเชิญพระอาจารย์เผื่อนไปเจิมบ้านและศูนย์บีทาเก้นเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในกิจการการงานต่าง ๆ วันรุ่งขึ้นวันที่สามได้นัดกันที่บ้าน "โยมติ๊ก"ช่วงเย็น หลังจากนั้นไม่นานญาติโยมก็เดินทางมาร่วมปฏิบัติกรรมฐาน โดยมีพระอาจารย์เผื่อนท่านเป็นผู้นำสอนมโนมยิทธิ เราใช้เวลาในการนั่งกรรมฐานอยู่ร่วมสองชั่วโมง แต่เป็นสองชั่วโมงที่รู้สึกเหมือนกับว่านั่งแค่ยี่สิบนาที คนที่ตอบชัดเจนเสียงแจ๋วมากที่สุดก็คือป้าเม้าท์ของเรา ๆ ท่าน ๆ นี้เอง ไม่รู้ว่าไปเก็บกดอะไรมาจากไหน ๕๕๕๕๕ (ขอขำอย่างไม่เป็นทางการหน่อยนะครับ)
ซ้ายรู้จัก ขวารู้จัก
ผู้หญิงคนนี้ใส่เสื้อสีอะไร ผู้ชายคนนี้ใส่กางเกงสีอะไร ป้าเม้าท์ตอบได้หมด
มาหรือยัง ป้าเม้าท์มาหรือยัง
ป้าเม้าท์แกไปได้หมด ตอบด้วยความมั่นใจ ไปได้ทุกกระบวนท่าเยี่ยมยุทธจริง ๆ แล้วจะไม่ให้เรียกว่า "ป้าเม้าท์ฉายเดี่ยว" ได้อย่างไร สาธุขอโมทนาบุญด้วยอย่างยิ่ง ความไม่ลังเลสงสัยกับการกระทำตามครูฝึกสั่งทุกขั้นตอนนั้นละคือคำตอบ.....
ต้องขอยกนิ้วให้ป้าเม้าท์ครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณนรินทร์แอบมองป้าเม้าท์หรือเปล่า? ภาพมันฟ้อง ๕๕๕๕๕