พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงที่โควิดอาละวาดหนัก ๆ อาตมาตั้งโรงทานเลี้ยงข้าวกล่องราคาถูกไป ๒ เดือน หมดไปเดือนละแสนกว่าเกือบสองแสนบาท ขนาดข้าวปลาของเราไม่ต้องจ่าย เพราะว่าเอาไปจากคลังวัด แต่หมดไปเยอะกับพวกหมู พวกไข่ พวกผัก เพราะว่าต้องการให้เขาได้สารอาหารครบถ้วน”
ถาม : ทำไปประมาณเท่าไรครับ ?
ตอบ : ทำวันหนึ่งประมาณ ๓๐๐-๔๐๐ กล่อง ทำได้แค่นั้นแหละ จะให้เลี้ยงยาวแบบหลวงปู่วัดสระแก้วเลยก็ไม่ไหว นั่นเด็ก ๒,๗๗๒ คน หนึ่งเดือนเฉพาะข้าวสารก็ตกล้านกว่าบาท อาตมาช่วยท่านไปหนึ่งล้านบาท บอกท่านว่า "ช่วยหลวงปู่เลี้ยงเด็กหนึ่งเดือน"
ช่วงก่อนที่ไปช่วยเขานั่นไม่ใช่เด็กยากจน แต่เป็นเด็กที่โดนทางบ้านทำร้ายมาบ้าง ครอบครัวแตกแยกบ้าง ทางมูลนิธิเด็กเลยไปตั้งโรงเรียนให้เด็กได้เรียนหนังสือ ได้ศึกษาว่าทำอะไรจึงจะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ จึงรับปากว่าจะสร้างอาคารที่พักให้เด็ก ๑ หลัง และก็มอบข้าวสารอาหารแห้งไป ๑ คันรถหกล้อ
ตอนแรกเขาเอารถกระบะมา แล้วมีคนนั่งมาด้วย ๗ คน ถามเขาว่า "แล้วคุณจะขนไปอย่างไร ?" ปกติของเขาได้ข้าวสารก็แค่หนึ่งกระสอบสองกระสอบ แต่ของเราเฉพาะข้าวสารอย่างเดียวก็ให้ไป ๒๓ กระสอบ..! และก็ยังมีพวกเครื่องครัวต่าง ๆ น้ำตาล น้ำปลา น้ำมัน บะหมี่แห้ง อะไรประมาณนั้น และพวกยารักษาโรค นม ขนม อย่างละ ๗-๘ เข่ง ขนทีเดียวเข็ดไปเลย น่าจะพอสักสามเดือน เขาจึงต้องโทรให้ทางโรงเรียนส่งรถหกล้อเปล่ามาอีกคัน
คนลำบากมีเยอะมาก เพียงแต่ว่าถ้าให้อาตมาช่วยเหลือทั่วไปก็ไม่ไหว จึงเอาเท่าที่ตัวเองไหวเท่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2020 เมื่อ 02:41
|