การขบฉัน
“...การขบการฉันให้สำรวม ตาสำรวมในบาตร และเวลาฉันจังหันนี้.. ตาเหม่อมองไปที่ไหน ๆ นั่นเป็นความไม่มีสติ และเสียศักดิ์ศรีของผู้ฉันในบาตรเป็นอันมากทีเดียว นี่เราเคยเตือน มองดูแพล็บ ๆ มันขวางตานะ เพราะเราไม่เคยปฏิบัติอย่างนั้นมา ปตฺตสญฺญี ปิณฺฑปาตํ มันก็มีทั้งสองภาคไม่ใช่รึ ปตฺตสญฺญี ปิณฺฑปาตํ อันหนึ่งเป็นภาครับบิณฑบาตไม่ใช่รึ ปฏิคฺคเหสุสามีติ สิกฺขา กรณียา คือรับบาตร ทำความสัญญาอยู่ในบาตร ในขณะที่รับบาตรนั่น ปตฺตสญฺญี ปิณฺฑปาตํ ภุญฺชิสฺสามีติ สิกฺขา กรณียา เวลาฉันจังหันก็ให้ทำความสำคัญอยู่ในบาตร ตาก็มองอยู่นี้ อย่าไปเถ่อไปทางเน้น เถ่อไปทางนี้ มองโน้นมองนี้ มองดูเห็นหมู่เพื่อนทำให้ขวางตาอยู่ นี่..ดูไม่ได้นะ ผมเห็นอยู่นี่ เราเคยทำความเข้าใจกับเจ้าของตั้งแต่วันฉันในบาตรมาแล้ว เราทำเอาจริงเอาจังนี่นะ ทำความเข้าใจกับเจ้าของ.. จะไปฉันเหม่อ ๆ มอง ๆ ดูนั่นดูนี่ ทั้งเคี้ยวทั้งกลืน.. หาสติสตังไม่ได้ โอ้.. เสียศักดิ์ศรีของกรรมฐาน อย่างน้อยเป็นอย่างนั้น อย่างมากก็เหลว ความเลื่อนลอย ดูในนั้นในบาตร ปตฺตสญฺญี ทำความเข้าใจ ทำความสำคัญอยู่ในบาตร สำรวมอยู่ในบาตรนั้น
ฉันก็อย่าให้ได้ยินเสียงจุ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ ให้ระมัดระวังกิริยาอาการของการขบการฉัน ใน ๒๖ ข้อเสขิยวัตรท่านก็บอกไว้แล้ว ท่านสอนหมด..การขบการฉัน การขับการถ่าย โอ้โห.. สอนละเอียดลออมาก พระวินัยละเอียดมากทีเดียว ถ้าหากเราดำเนินตามพระวินัยแล้วจะมีที่ต้องติที่ไหน พระเรามีแต่ความสวยงามทั้งนั้นแหละ ที่โลกเขาต้องติหรือเพื่อนฝูงได้ต้องติ แสลงหูแสลงตา เพราะความไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยนั่นเอง มันเลยไม่น่าดู อย่ามาทำให้เห็นนะ...”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2020 เมื่อ 01:43
|