ผลเสีย.....
การหักโหมเจริญสมาธิบำเพ็ญเพียร คือแนวทางสุดโต่งเหมือนพวกฤๅษี โยคี ดาบส ไม่มีทางบรรลุถึงจุดประสงค์สูงสุดของการบำเพ็ญเพียร ตัดกิเลสไม่ขาดแม้แต่กองเดียว กิเลสเคยมีอยู่เท่าใดก็มีอยู่เท่านั้น เผลอ ๆ อาจหลงทาง กลายเป็นพวกนอกลัทธิไปเลยก็มี พึงทำใจไว้ตั้งแต่แรกว่าปรารถนาจะเป็นผู้หมดกิเลส ต่อจากนั้นไม่ต้องเพ่งจิตอยากได้อะไรอีก ตรงกับคำที่ว่า "ไม่อยากคืออยาก" อยากเองโดยการทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่อยาก อุปมากับการหุงข้าว เมื่อซาวข้าว ก่อกองไฟ ยกหม้อข้าวขึ้นไปตั้งบนกองไฟแล้ว ไม่ต้องไปอยากให้ข้าวมันสุก ประเดี๋ยวมันก็สุกไปเองกระนั้นแหละ
พระภิกษุลึกลับสาธยายวิธีเจริญสมาธิเดินจงกรมให้สามเณรน้อยฟังอย่างละเอียดลออ
สามเณรกองแก้วก้มลงกราบนมัสการพระภิกษุผู้ลึกลับด้วยความเคารพเลื่อมใส เมื่อท่านมีเมตตาอบรมสั่งสอนแนวทางการปฏิบัติอันแจ่มแจ้งชัดเจนให้
พระภิกษุรูปนั้นเมื่อพิจารณาว่าสามเณรน้อยเข้าใจข้อชี้แนะถ่องแท้แล้ว จึงจาริกธุดงค์ต่อไป มีสามเณรกองแก้วนั่งทบทวนความรู้ไปเพียงลำพังที่โคนไม้ใหญ่ต้นนั้น
สามเณรระลึกถึงคุณของพระภิกษุลึกลับ แต่เรื่องเกี่ยวกับ "เสือเย็น" ก็หาเลือนไปจากความทรงจำแม้แต่น้อย
จำได้ติดหูติดตาว่าเสือตัวเท่าควายเปลี่ยว โถมทะยานฝ่าอากาศเหมือนมัจจุราชมาทวงเอาชีวิต แค่กระโจนตะครุบพลาดเป้าหมาย แทนที่เสือร้ายจะวกกลับมาขบกัดเณรน้อยผู้นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นดิน กลับอันตรธานเหมือนละลายกลายเป็นอากาศว่างเปล่า ไม่ได้ยินเสียงเผ่นโผนหายไปไหน ไม่มีเสียงกู่ก้องร้องคำรามใด ๆ อีก การรอดพ้นจากความตายคราวนั้นประดุจปาฏิหาริย์ เกิดขึ้นด้วยอำนาจสิ่งใดก็สุดที่สามเณรน้อยจะคาดคะเน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 08-01-2010 เมื่อ 21:56
|