ลำดับต่อไปก็หากองกรรมฐานที่เหมาะสมแก่ตน ถ้าศึกษามามากก็พินิจพิจารณาดูว่า กรรมฐานกองใดที่เรารักเราชอบมากกว่ากองอื่น ให้นำมาภาวนาควบคู่กับลมหายใจเข้าออก หรือถ้าหากรู้ว่าลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวก็พอแล้ว เราก็เน้นลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว เอาให้สามารถทรงอัปปนาสมาธิแนบแน่นได้ อย่างต่ำสุดก็ระดับปฐมฌานละเอียด อย่างสูงก็ให้เป็นฌานสี่ละเอียดไปเลย ส่วนท่านจะมีวิสัยในการปฏิบัติต่อจนเป็นสมาบัติแปดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความเพียรพยายามเฉพาะของแต่ละคน
ถ้าท่านสามารถทำอย่างนี้ได้ ก็จะมีหลักยึดและเข้าถึงในเรื่องของการปฏิบัติธรรมได้ง่ายขึ้น ไม่อย่างนั้นแล้วท่านทั้งหลายก็มัวแต่จับจด ส่งส่าย เปลี่ยนแปลงไปตามกองกรรมฐานหรือสายวิชาการที่ศึกษามา แล้วก็ทำอย่างโน้นนิด ทำอย่างนี้หน่อย พอที่จะเป็นแนวทาง โดยขาดความอดทน ขาดความจริงจัง คือไม่มีขันติบารมี ไม่มีสัจจบารมี ก็ทำให้เรากลายเป็นนักปฏิบัติธรรมที่ไม่สมควรแก่ธรรม เพราะว่าปฏิบัติไปแล้ว ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ตัวเองอาศัยได้ หรือว่านำไปช่วยเหลือบอกกล่าวต่อคนอื่นเขาได้
พวกเราจึงต้องเป็นคนประเภทรักเดียวใจเดียว หยิบกองกรรมฐานใดขึ้นมา ก็ทำให้ถึงที่สุดไปเลย เมื่อได้ผลแล้วค่อยเปลี่ยนแปลงไปสู่กองกรรมฐานอื่น แล้วก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่กองกรรมฐานอื่น ก็ต้องทบทวนของเก่าให้คล่องตัวอยู่เสมอ ๆ จึงจะสามารถที่จะปฏิบัติแล้วเกิดผลอย่างแท้จริงกับตนเองได้
ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย น้องผักชี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2021 เมื่อ 09:50
|