คุณต้องเข้าใจนะครับว่า เด็กเพิ่งจะอายุ ๑๑ ปีเต็ม ขึ้น ๑๒ ปี และต้องไปทำตัวเป็นครูใหญ่จะเป็นอย่างไร ? ครูท่านให้เคล็ดลับว่า ให้นึกว่าเพื่อนของเธอตายหมดแล้ว เธอยืนพูดอยู่คนเดียว..ผมทำไม่ได้ครับ ก็เพื่อนนั่งจ้องกูตาแป๋วทุกคน จะไปตายได้อย่างไร ? แต่ก็ต้องพูด ในเมื่อต้องพูดและวิธีของครูใช้ไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีของตัวเอง วิธีของผมก็คือว่า "กูเก่งกว่าเพื่อนทุกคน กูถึงได้มายืนพูดหน้าห้อง เพื่อนมีหน้าที่นั่งฟังอย่างเดียว ในเมื่อกูเก่งกว่า ทำไมกูต้องกลัวเพื่อนด้วย" แล้วก็เลยพูดได้
ฉะนั้น...ต้องบอกว่าคุณครูในสมัยนั้นมีความสามารถมาก ทำให้เด็ก ๆ กล้าแสดงออก คุณอย่าลืมนะครับว่าชั้นประถมปีที่ ๕ นี่ยังไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย สมัยโน้นผมจำได้ว่าเรียนอยู่ประถมปีที่ ๗ ผมยังแก้ผ้ากระโดดน้ำอยู่เลย สมัยโน้นเข้าเรียนตอน ๘ ขวบ คุณบวก ๗ เข้าไป เป็นอายุเท่าไร ? ไอ้ที่เราบอกว่าเป็นหนุ่มเป็นสาวสมัยนี้ สมัยโน้นยังไม่ประสีประสาอะไรเลยครับ เพราะว่ายุคนั้นไม่มีอะไรให้เลย ไม่ต้องไปพูดถึงมือถือ อินเตอร์เน็ตอะไรหรอก แม้กระทั่งภาพยนตร์ทื่ถือว่าเป็นความบันเทิงชนิดเดียวที่ร้อยวันพันปีจะมีสักทีหนึ่ง ก็นาน ๆ จะโผล่มาที เป็นหนังขายยาครับ ประกาศขายยาจนเราลืมไปแล้วว่าเนื้อเรื่องไปถึงตอนไหน ขายยาจนพอใจแล้วค่อยมาฉายต่อ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2021 เมื่อ 19:26
|