ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 31-05-2021, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อต่อไปถามว่า คำศัพท์ว่า ปาราชิก แปลว่า ผู้พ่าย ถุลลัจจัย แปลว่า อาบัติอ้วน อาบัติหยาบ สังฆาทิเสสมีคำแปลว่าอะไร ? ไหน ๆ ก็ แปลแล้ว ก็เอาให้หมดไปเลย

อาบัติ คือ สิ่งที่พระเราล่วงละเมิดในข้อห้ามของพระพุทธเจ้าแล้วเกิดเป็นโทษ มีหนักสุดตั้งแต่ปาราชิก ขาดความเป็นพระไปเลย ซึ่งตัวนี้ก็แปลว่าผู้พ่าย คือพ่ายแพ้ต่อกิเลส ไม่สามารถที่จะระงับยับยั้งใจตนเองได้ ก็เลยไปละเมิดกิเลสใหญ่เข้า

สังฆาทิเสส แปลว่า อาบัติที่เริ่มต้นด้วยสงฆ์ลงท้ายด้วยสงฆ์ ก็คือเมื่อต้องอาบัติแล้ว เราจะต้องแจ้งต่อคณะสงฆ์ว่าต้องอาบัติอย่างนี้ เพื่อที่จะได้อยู่ปริวาส เมื่อคณะสงฆ์จัดให้อยู่ปริวาส กำหนดเขตใดเขตหนึ่งจนครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีการสวดเพื่อที่จะยกกลับคืนเข้าสู่หมู่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น..เมื่อเริ่มต้น..ก็ต้องเริ่มต้นด้วยสงฆ์ ลงท้าย..ก็ต้องลงท้ายด้วยสงฆ์ ถึงได้เรียกว่าสังฆาทิเสส ก็คือ อาทิ เบื้องต้น เสสะ เบื้องท้าย หรือเศษที่เหลือ

ถุลลัจจัยก็คืออาบัติอ้วน อาบัติหยาบ เป็นอาบัติที่ไม่มีข้อล่วงละเมิดโดยตรง แต่ว่าเป็นส่วนที่หลงเหลือมาจากปาราชิกหรือสังฆาทิเสส อย่างเช่นว่า ภิกษุตั้งใจฆ่ามนุษย์ให้ตาย แต่ฆ่าไม่สำเร็จ ได้แค่บาดเจ็บสาหัส ต้องอาบัติถุลลัจจัย ก็คือไม่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะว่าไม่ตาย

หรือว่าอย่างอาบัติสังฆาทิเสส ภิกษุพยายามยุสงฆ์ให้แตกกัน สงฆ์ประกาศเพื่อให้ยกเลิกการกระทำนั้น ถ้าไม่ยกเลิก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ก็แปลว่าการสวดประกาศนั้น ซึ่งกำหนดเอาไว้ ๓ วาระ คือประกาศ ๓ ครั้ง ถ้าอยู่ภายในครั้งที่ ๒ ต้องอาบัติถุลลัจจัย จนกว่าจะถึงครั้งที่ ๓ แล้วยังดื้อไม่ทำตามอีก ถึงจะโดนอาบัติสังฆาทิเสส ดังนั้น..อาบัติถุลลัจจัยตัวนี้จะไม่มีข้อล่วงละเมิดโดยเฉพาะของตนเอง แต่เป็นส่วนที่เหลือมาจากอาบัติปาราชิกและอาบัติสังฆาทิเสส

อาบัติปาจิตตีย์แบ่งออกเป็นหลายอย่างด้วยกัน คำว่า ปาจิตตีย์ ก็คือ จิตเป็นบาป จิตชั่ว มีสุทธิกปาจิตตีย์ ต้องอาบัติโดยตรงเลย อย่างเช่นว่า ภิกษุดื่มน้ำเมา ต้องอาบัติปาจิตตีย์

นิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ เมื่อต้องอาบัติแล้วต้องสละสิ่งของนั้น ๆ ออก อย่างเช่นว่า ภิกษุเก็บเภสัช ๕ เอาไว้เกิน ๗ วัน ถ้าไม่สละทิ้ง ไม่สามารถที่จะแสดงคืนอาบัติได้ ก็คือความชั่วยังติดตัวอยู่ ก็ต้องสละทิ้งไปก่อน

เฉทนกปาจิตตีย์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ แล้วต้องตัดให้ได้ประมาณ ถึงจะแสดงคืนอาบัติคืนได้ อย่างเช่นว่า ทำจีวรเท่าจีวรพระสุคต ต้องตัดให้ได้ประมาณ ก็คือได้ขนาดของตัวเอง ไม่ใช่ได้เท่าขนาดของพระพุทธเจ้า ถึงจะแสดงคืนได้

เภทนกปาจิตตีย์ ต้องอาบัติแล้ว ต้องทุบต้องต่อยสิ่งของนั้นให้แตกเสียก่อน พูดง่าย ๆ ก็คือทุบทิ้งไปเลย ถึงจะแสดงคืนอาบัติได้ อย่างเช่นว่าทำกล่องเข็มด้วยเขา ด้วยงาสัตว์ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2021 เมื่อ 01:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา