เครื่องวัดที่ง่ายที่สุดมีอยู่แล้ว ก็คือการทำตามระเบียบวัด ถัดไปก็คือการปฏิบัติอย่าให้ละเมิดวินัยสงฆ์ หลังจากนั้นก็ดูใจของเราว่ามีนิวรณ์ ๕ กินใจของเราอยู่หรือเปล่า ?
กำลังใจน้อมไปในด้านของกามฉันทะ คือยินดีในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศหรือไม่ ?
น้อมไปทางพยาปาทะ คือโกรธเกลียดอาฆาตแค้นผูกโกรธคนอื่นหรือเปล่า ?
น้อมไปในทางถีนมิทธะ ก็คือง่วงเหงาหาวนอน ชวนให้ขี้เกียจปฏิบัติหรือเปล่า ?
น้อมไปในด้านอุทธัจจะกุกกุจจะ คือความหงุดหงิดฟุ้งซ่านรำคาญใจ บางทีปฏิบัติธรรมไม่ได้เลย มีหรือเปล่า ?
น้อมไปในทางวิจิกิจฉา คือลังเลสงสัยว่าผลของการปฏิบัตินี้จะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ?
ถ้าเราวัดมาถึงระดับนี้ ก็จะเห็นชัดว่าจิตใจของเรามีคุณภาพสูงหรือว่ามีคุณภาพต่ำ ถ้ายังตกอยู่ใต้อำนาจของนิวรณ์ ๕ อย่าง แปลว่าจิตใจของเราไร้คุณภาพ โดนกิเลสยึดไปแล้ว แต่ถ้าในแต่ละวันรู้เท่าทันว่านิวรณ์กำลังมา แล้วเราสามารถขับไล่ออกไป รักษาใจไม่ให้เกิดนิวรณ์ขึ้นมา ก็ถือว่าจิตของเราอยู่ในสภาพที่ดี มีคุณภาพ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะว่ายังต้องต่อสู้ ต่อต้านกันอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2021 เมื่อ 02:24
|