ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 15-10-2021, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,819 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายต้องฟังไว้บ่อย ๆ จิตใจจะได้เคยชิน เมื่อถึงเวลาเคยชิน ก็จะไม่รู้สึกว่ายาก อย่างเช่นวันนี้คณะกรรมการทั้งหลาย โดยเฉพาะกองงานเลขานุการ ที่ไปทำหน้าที่ในการจัดสอบ เก็บข้อสอบ รับ ตรวจสอบและจัดเรียงกระดาษคำตอบ เตรียมพร้อมที่จะส่งเข้าจังหวัด ส่งเข้าภาค เมื่อถึงเวลาเสร็จงาน รู้สึกโล่งใจ เบาใจ สบายใจ ผ่านพ้นไปวันหนึ่ง

พวกเราดำรงชีวิตอยู่ ต้องอยู่ในลักษณะอย่างนั้น ก็คืออยู่ไปงานหนึ่ง อยู่ไปวันหนึ่ง หรืออยู่ไปครึ่งวัน อยู่ไปชั่วโมงนี้ อยู่ไปนาทีนี้ อยู่ไปแค่วินาทีนี้ แล้วแต่กำลังใจสูงต่ำ ถ้าหากว่าเราวางกำลังใจของเราลักษณะอย่างนี้ได้ ก็เหมือนกับการที่ปลดวางทุกสิ่งทุกอย่างลงเป็นระยะ ๆ

เมื่อสักครู่เราทำวัตรค่ำรอบแรกจบไปแล้ว ตอนนี้กำลังฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อีกสักครู่ก็จะจบอีกแล้ว แล้วหลังจากนั้น เราก็ทำวัตรค่ำรอบที่ ๒ ให้จบลงไป งานของเราก็จะเสร็จสิ้นลงไปทีละงาน...ทีละงาน...ทีละงาน เหมือนกับเราปล่อยวางภาระลงทีละอย่าง...ทีละอย่าง ก็จะรู้สึกถึงความเบา ความสบาย ความไม่มีอะไรถ่วงเราอยู่ข้างหลัง เพราะว่าเราก้าวข้ามไปทีละก้าว

เหมือนกับพี่น้องชาวทิเบตที่ถึงเวลาก็นับลูกประคำ หมุนกงล้อมนต์ ภาวนา โอม มณี ปัทเม หุม เดินจงกรมรอบเจดีย์ เดินก้าวหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง นับลูกประคำเม็ดหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง หมุนกงล้อมนต์รอบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ภาวนาจบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง

ถ้ากำลังใจของเราอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ถึงจะเรียกว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง สมควรแก่ธรรม ก็คืออยู่เฉพาะปัจจุบันตรงหน้านี้เท่านั้น ถ้าหากว่ากำลังใจสูงสุดก็คือ อยู่แค่ชั่วลมหายใจนี้เท่านั้น มากไปกว่านั้นไม่เสียเวลาคิด เรื่องมาถึงตรงหน้าก็ทำไปทีละอย่าง จบแล้วก็วางไปทีละงาน ละภาระหน้าที่ไปทีละอย่าง เราก็จะไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าเป็นเครื่องถ่วง

หมดวันเอนกายลงนอนก็เหมือนกับคนที่ตายแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้ลืมตาเห็นฟ้าใหม่หรือไม่ ถ้าหากว่าตาย เราก็ขอไปพระนิพพานแห่งเดียว เอากำลังใจสุดท้ายเกาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานเอาไว้ นี่จึงเป็นการดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาทโดยแท้จริง

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ที่นี่ อยู่ที่บ้าน อยู่ในประเทศ อยู่ต่างประเทศทุกคน เรื่องพวกนี้ถ้าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ก็ไม่มีโอกาสที่จะมาบอกมากล่าวกันบ่อยนัก เพราะว่าเป็นของหนักสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นทางสว่างสำหรับผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติอย่างแท้จริง ก็ขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2021 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา