ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 29-11-2021, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,662 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าอย่างสมัยก่อน ก็ต้องดูอย่างวัดธรรมกาย มีคนเข้าวัดประมาณล้านคน แต่คราวนี้เราต้องมาดูว่า ๑ ล้านคนใน ๖๖ ล้าน เป็นจำนวนที่ไม่ได้มากเลย แล้วในจำนวน ๑ ล้านคนนั้น ไปแล้วรักษาศีลได้กี่คน ? ที่สามารถรักษาศีลและเจริญสมาธิได้มีกี่คน ? ที่สามารถรักษาศีล เจริญสมาธิ และมีปัญญามองเห็นความเป็นทุกข์เป็นโทษของร่างกายและโลกนี้มีสักกี่คน ?

ตัวกระผม/อาตมภาพเอง เคยกล่าวกับระดับ "คีย์แมน" ของวัดธรรมกายเขาว่า ทำไมถึงไม่อธิษฐานขอไปพระนิพพานในชาตินี้ ? นั่นบุคคลระดับบริหารของเขาเลย เขาถามคืนกลับมาว่า "พระนิพพานสามารถไปชาตินี้ได้ด้วยหรือ ?" ก็แสดงว่าแม้แต่ระดับบริหารแล้ว กำลังใจก็ยังไม่คู่ควรกับการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น ก็จะได้แค่เบื้องต้นก็คือศีล เบื้องกลางคือสมาธิเท่านั้น ยังไปไม่ถึงเบื้องปลายคือปัญญา

ดังนั้น...การที่คนไปทำบุญเป็นล้านก็น่าจะได้แค่เบื้องต้น ก็คือทาน ให้ทานได้ รักษาศีลได้ เจริญภาวนาได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็อย่าไปหวังเลยว่าสถานที่อื่นจะมีคนที่มากไปกว่านั้นอีก เพราะว่าระบบการจัดการไม่เท่าเทียมเขา

ดังนั้น...ถ้าจะคิดไปแล้ว ประชากร ๖๕ ล้านกว่า ๖๖ ล้านคน มีคนที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมจริง ๆ ไม่กี่คน ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเราเป็นประเทศพระพุทธศาสนา คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังสมบูรณ์บริบูรณ์ ปฏิบัติจริงจังเมื่อไร มรรคผลก็รออยู่ แต่ว่าทุกคนก็ทำเหมือนอย่างกับว่า ชีวิตนี้ยังยืนยาวอีกมาก ยังมีเวลาที่จะปฏิบัติอีกมาก ก็เลยทำแบบแก้บน

ถ้าหากว่าวาระเลยไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรออีกนานเท่าไร กว่าที่กุศลกรรมจะมาสนองอีกรอบหนึ่ง กว่าที่จะทำให้เกิดกำลังใจฮึกเหิมขึ้นมา ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องเฉพาะของใครของมัน ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ายาวนานหรือว่าสั้นเท่าไร จึงฝากไว้เป็นข้อคิดสำหรับท่านทั้งหลายเอาไว้ว่า

ถ้าหากว่าโอกาสดีมาถึง ต้องกอบโกยให้เต็มที่ ต้องเอาให้คุ้มค่ากับโอกาส อย่าได้ทำตัวเป็นคนใช้โอกาสเปลือง ผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่ไม่ได้อะไร

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2021 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา