วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ สิ้นปี ๒๕๖๔ แล้ว เมื่อสักครู่นี้กระผม/อาตมภาพก็ไปร่วมงานเปิดถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ ๑๓ แล้ว
เจตนาของการเปิดถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ส่วนที่ชัดเจนที่สุดก็คือ ให้ชาวบ้านสามารถจำหน่ายสินค้ากับนักท่องเที่ยวได้ จะได้มีรายได้เข้าพื้นที่ของตน
อีกส่วนหนึ่งนั้นก็คือ เป็นการระลึกถึงวัฒนธรรมประเพณีเก่า ๆ ของทองผาภูมิ ที่ก่อนหน้านี้การซื้อขายก็คือการนั่งยอง ๆ ซึ่งถ้าหากว่าใครเคยเห็นรูปที่กระผม/อาตมภาพไปพม่ามา ที่เรียกว่า ยองยองเหลา ไม่ผิดหรอก..จะมีโต๊ะเตี้ย ๆ สูงสักคืบกว่า ๆ ให้วางของ แล้วก็มีเก้าอี้เล็ก ๆ ที่เตี้ยกว่าโต๊ะอีกให้หย่อนก้นลงนั่งได้ ก็เลยกลายเป็นครึ่งนั่งครึ่งยอง
ทองผาภูมิของเรา ในอดีตทำอย่างนั้นมาตลอด จนกระทั่งมีถนนสายใหม่ขึ้นมา ถึงได้เปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตไปจากเดิม
อีกส่วนหนึ่งก็คือ ญาติโยมที่มางวดนี้จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพให้พระช่วยกันประดับไฟสารพัดสีที่สะพานแขวนหลวงปู่สาย แล้วก็ลามเข้าไปถึงสวนสาธารณะตรงหัวสะพานด้วย ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเป็นการเสริมของเก่าให้ดีขึ้น ถ้าว่ากันตามหลักบริหารก็คือ ถ้าไม่ขายของเก่าก็ต้องขายของใหม่
แต่คราวนี้ของเก่า ถ้าหากว่าขายแต่ความเก่าอย่างเดียวก็ไปไม่รอด จึงต้องมีการเพิ่มเติมอะไรที่เป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย ก็เพิ่มเติมในส่วนของแสงสีขึ้นมา แล้วก็จะมีงานแสดงของเด็ก ๆ ให้ดูอีกชุดหนึ่ง ซึ่งจะแสดงตอนทุ่มครึ่ง ถัดจากนี้ไปหลังจากเราทำวัตรเสร็จแล้ว
ตรงส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นการเอากิเลสมาล่อใจคน คือในส่วนที่ทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย อายุ อาหาร ไออุ่นหรือว่าปราณชีวิต และวิญญาณ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2022 เมื่อ 03:16
|