อันดับต่อไปเลยก็คือคุณธรรม ถ้าถามว่าคุณธรรมของทหารมีอะไร ? อันดับแรก เชื่อฟังผู้บังคับบัญชาอย่างที่กล่าวไว้แล้ว ว่าไม่มีข้อแม้ อันดับต่อไป คือความอดทนอดกลั้นต่อทุกสถานการณ์
การฝึกอบรมบาลีก็เช่นกัน เพราะว่าการเรียนบาลีนั้น สำคัญที่สุดก็คือต้องเชื่อ ยิ่งการเรียนในประโยคแรก ๆ จะไปหาเหตุหาผลอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เหตุผลและความรู้ความเข้าใจจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับประโยคที่สูงขึ้นไป แรก ๆ นี่ต้องท่อง ต้องจำ ต้องเชื่ออย่างเดียวว่าตัวนี้คืออย่างนี้ คำนี้แปลว่าแบบนี้ สงสัยเมื่อไรจะผิดทันที
ข้อต่อไปคือความอดทน จะซ้ำกับคุณธรรมไหม ? ไม่ซ้ำ และต้องแยกออกมาต่างหากเลย โดยเฉพาะทหารของเรา ถ้าหากว่าใครท่องหนังสือตั้งแต่เด็ก ก็จะได้ยินคำว่า ท.ทหาร อดทน คือ ทนต่อความกดดันทุกอย่าง โดยเฉพาะความยากลำบากทางร่างกายและจิตใจ ลำบากกาย..พักเหนื่อยแล้วก็หาย แต่ครูฝึกมักจะสร้างสถานการณ์กดดันอย่างหนัก กินไม่พอ นอนไม่พอ แต่ต้องฝึกหนักในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ถึงเวลาที่เผชิญกับสถานการณ์จริงแล้ว เราจะได้รู้สึกว่าไม่ได้หนักเกินกว่าที่ฝึกฝนมา
การอบรมบาลีส่วนใหญ่ก็คือครูต้องให้การบ้านเยอะมาก เพื่อสร้างความชำนาญให้เกิด สร้างความคุ้นเคยกับข้อสอบ ถ้าหากว่าดวงดี ก็อาจจะได้ตรงกับสิ่งที่ออกในข้อสอบเลย แล้วก็ต้องมีการกดดันด้วยระยะเวลาที่จำกัด
ดังนั้น...คุณธรรมคือขันติ ความอดทนข้อนี้ จึงต้องแยกออกมาจากคุณธรรมทั่วไป คุณธรรมของผู้อบรมบาลีก็คืออดทนอดกลั้นแล้วยังไม่พอ ต้องฝืนใจไม่กระทำทุจริตด้วย ต่อให้มีโอกาสก็ไม่ทำ ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็คือลักษณะของการเป็นผู้มีศีล เพราะว่าคนเราจะล่วงละเมิดศีลก็ต่อเมื่อมีโอกาสอยู่ตรงหน้า แต่ศีลจะเป็นศีลได้ก็ต่อเมื่อมีโอกาสที่จะละเมิดอยู่ตรงหน้า แล้วเราสามารถหักห้ามใจของตนเองได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2022 เมื่อ 02:32
|