ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 24-02-2022, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,664 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ อากาศเปลี่ยนแรง จากฝนกลายเป็นหนาว กระผม/อาตมภาพก็มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปกติ เพียงแต่ว่าช่วงนี้มีพระมาขออนุญาตออกธุดงค์

ในเรื่องของการธุดงค์นั้น ในปัจจุบันนี้น่าจะเรียกว่า จาริก มากกว่า เพราะว่าเป็นการเดินตามถนน เดินระหว่างบ้านต่อบ้าน ถ้าหากว่าเป็นธุดงค์ในความหมายเดิม ๆ ก็คือการที่เราเข้าป่าใหญ่ไปเลย อาศัยเรื่องของสัตว์ร้ายบ้าง เรื่องของผี ของเทวดาบ้าง ช่วยขัดเกลากำลังใจของเรา

ดังนั้น..ในปัจจุบันที่เห็นเดินทางกันไป อย่างเช่นว่าไปนมัสการสถานที่สำคัญบ้าง ไปแสวงหาความวิเวกบ้าง แต่เดินอยู่บนถนนใหญ่ จึงไม่น่าจะเรียกว่า การธุดงค์ เพราะว่าหาความวิเวกไม่ได้ เพราะคำว่า ธุดงค์ นั้น ถ้าแปลความตรง ๆ คือ องค์คุณเครื่องเผากิเลส มี ๑๓ อย่างด้วยกัน ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าป่าก็ทำได้ อย่างเช่นว่า ถือการฉันอาสนะเดียว (มื้อเดียว) การใช้ผ้า ๓ ผืน การบิณฑบาตเป็นวัตร เป็นต้น

ในสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ ภาพพจน์ของพระธุดงค์นั้นก็คือ พระที่มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติ เข้าป่าชนิดสละชีวิตเพื่อแลกกับธรรมะ ถ้าดูแค่ตัวอย่างที่โยมพ่อเล่าให้ฟัง เพราะว่าเป็นเรื่องก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะเกิด ก็คือมีพระเดินป่ามาปักกลดอยู่หน้าถ้ำทางป่าท้ายบ้าน ซึ่งถ้ำนั้นมีงูใหญ่อยู่ เคยถามพ่อตอนที่ดูแลท่านระหว่างที่ป่วยว่า "งูตัวใหญ่ขนาดไหน ?" พ่อบอกว่า "เวลาเลื้อยออกมาก็ตัวเต็มปากถ้ำพอดี" จึงต้องถามอีกว่า "ปากถ้ำนั้นกว้างเท่าไร ?" โยมพ่อบอกว่าประมาณหัวของท่านเอง

โยมพ่อของอาตมานั้นเป็นผู้ชายที่ตัวเล็ก ความสูงเต็มที่ก็น่าจะประมาณ ๑๕๕ เซนติเมตรเท่านั้น ที่กระผมค่อนข้างสูงในปัจจุบันนี้ ได้ความสูงจากโยมแม่มา แต่ถึงความสูง ๑๕๕ เซนติเมตร บอกว่าไปยืนแล้วหัว "ครือ ๆ" กับปากถ้ำ ก็คือใกล้เคียงระดับเดียวกัน แล้วงูเลื้อยออกมาตัวเต็มปากถ้ำพอดี ต้องลองนึกดูว่าตัวใหญ่แค่ไหน !!?

โยมพ่อพยายามที่จะอธิบายให้พระฟังว่างูใหญ่อาศัยอยู่ในนั้น แล้วแถวใกล้ ๆ ปากถ้ำก็มีโครงกระดูกสัตว์ที่งูกิน ย่อยจนเหลือแต่โครงกระดูก แล้วคายทิ้งออกมาอยู่มากมาย แต่พระธุดงค์ท่านก็บอกว่า "ปักกลดแล้วถอนไม่ได้ จนกว่าจะได้อรุณของวันใหม่ ถ้าถอนก่อนเป็นการเสียสัจจะ ผิดหลักของการธุดงค์"

โยมพ่อก็เลยต้องกลับบ้าน แบกปืนมานอนเฝ้าพระ ซึ่งในยุคนั้น ปืนส่วนใหญ่ก็เป็นปืนแก๊ป หรือปืนคาบศิลา แต่ว่าโยมพ่อยอมลงทุนซื้อปืนลูกซองไนโตรของเยอรมัน ใส่กระสุนได้ ๒ นัด ก็คือลักษณะเป็นซองกระสุน
นัดแรกกดลูกให้จมลงไป นัดที่สองก็ขึ้นลำไปเลย ถือว่าเป็นอาวุธที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น แต่ถ้าเรามาเปรียบเทียบกับงูที่ตัวใหญ่ขนาดนั้น ก็คงประมาณจะเอาไม้จิ้มฟันไปกระทุ้งรถไฟ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2022 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา