เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ารู้จักพิจารณา เราก็จะเห็นอนิจจัง คือความไม่เที่ยง เป็นปกติธรรมดาของโลก พระพุทธเจ้าทรงตรัสยืนยันไว้ในบทธัมมนิยามปริตร
อุปปาทา วา ภิกขะเว ตะถาคะตานัง ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตจะอุบัติขึ้นก็ดี
อะนุปปาทา วา ตะถาคะตานัง หรือว่าไม่อุบัติขึ้นก็ดี
ฐิตา วะ สา ธาตุ ธัมมัฏฐิตะตา ธรรมทั้งหลายก็ตั้งมั่นทรงตัวอย่างนั้นอยู่แล้ว
ธัมมะนิยามะตา คำจำกัดความของคำเหล่านี้คือ
สัพเพ สังขารา อนิจจาติ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารนี่หมายถึงทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ดูศาลาหลังใหญ่ ๆ ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ค่อย ๆ เก่า เดี๋ยวก็พังไปหมด
สัพเพ สังขารา ทุกขาติ สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์ เรือนชานบ้านช่อง ภูเขา รถยนต์ เป็นทุกข์อย่างไร ? เป็นทุกข์ตามสภาพที่ก้าวไปสู่ความพังอยู่เสมอ เขาเรียกสภาวทุกข์
สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ธรรมทั้งหลาย ก็คือสรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่มีอะไรยึดมั่นเป็นตัวตนเราเขาได้
ตัง ตะถาคะโต อะภิสัมพุชฌะติ อะภิสะเมติฯ จนกระทั่งตถาคตบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2022 เมื่อ 01:35
|