โดยมากคนทั่ว ๆ ไปจะไม่กล้าด่า ไม่กล้าว่าในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะว่ารักตัวเองมากเกินไป กลัวเขาจะเกลียดขี้หน้าเรา แต่กระผม/อาตมภาพในฐานะครูบาอาจารย์ ก็ต้องปากเปียกปากแฉะไปเรื่อย เพียงแต่พิจารณาแล้วว่าบางรายนี้ ต่อให้พูดจนปากฉีกถึงหู ก็ยังเป็นเหมือนเดิม เป็นคนที่เที่ยงตรงต่อปฏิปทาตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ไม่คิดจะเปลี่ยนตามใคร ถ้าอย่างนั้นก็ทางใครทางมัน แล้วก็ดันไม่เดินไปตามทางมัน แต่ดันเดินตามมาเรื่อย ๆ วันดีคืนดีจะถีบให้สักทีหนึ่ง..!
ผู้ใดรับหน้าที่ธรรมกถึก เตรียมขึ้นธรรมาสน์ได้แล้ว ทายกไม่จุดเทียนสักทีก็ไม่ขึ้นธรรมาสน์สักทีหนึ่งเหมือนกัน โบราณเขาเรียก "เทียนส่องธรรม" เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วโบสถ์ กุฏิ วิหาร ศาลา สมัยก่อนสร้างแบบมืด ๆ ทึม ๆ แล้วก็ไม่มีไฟฟ้าเหมือนกับสมัยนี้ จึงต้องมีเทียนเอาไว้เพื่ออ่านพระคัมภีร์เทศน์ สมัยนี้มีทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ว่าการจุดเทียนส่องธรรมเป็นประเพณีไปแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าการจุดเทียนในปัจจุบัน เป็นสัญญาณว่าให้ขึ้นธรรมาสน์ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2022 เมื่อ 19:32
|