ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 08-05-2022, 07:21
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,967 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Default เรื่องการทำสมาธิ และอื่น ๆ

๑.ในเรื่องฌาน ๑ การเข้าองค์ฌาน ๑ ในข้อของวิตก วิจาร กับ เอกัคคตารมณ์ คืออารมณ์ที่จดจ่ออยู่อย่างเดียว การที่จะสร้างเอกัคคตารมณ์ให้เกิด ต้องอาศัยวิตก วิจารมาก่อนใชไหมครับ เพราะว่าถ้าเราไม่นึกถึงลมหายใจ คือวิตก และไม่รู้ว่าตอนนี้เรากำลังหายใจเข้าหรือหายใจออก คือวิจาร อารมณ์ที่จดจ่อหรือเอกัคคตารมณ์ก็ไม่เกิดขึ้น

๒. ในเรื่องของฌาน ๔ หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกไว้ว่า องค์ของฌาน ๔ มี อุเบกขา กับ เอกัคคตารมณ์ ผมสงสัยว่าอุเบกขาคือ "อาการเฉยไม่รับสัมผัสอารมณ์ใด ๆ ทั้งหมด" เป็นเหมือนการหลับหรือเปล่าครับ เพราะเคยทำได้ ตอนนั้นหูไม่ได้ยินเสียง มีความรู้สึกทื่อ ๆ และรู้สึกดิ่งลงตรงกลางของร่างกายไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั้งต้องมีคนมาจับตัว ถึงรู้สึกตัวขึ้นมา และเป็นฌาน ๔ แต่เป็นฌาน ๔ หยาบ หรือเปล่าครับ

๒.๑ ผมเคยอ่านมาฌานแต่ละฌานจะมี หยาบ กลาง และละเอียด อยากทราบว่าจะเข้าถึงฌานอารมณ์ละเอียดอย่างไรหรือครับ

๓.ตามที่ผมศึกษามา พอเวลาเราเข้าฌาน ๑ ได้และจะเข้าฌานที่สูงกว่า ๒ ๓ และ ๔ และ ฌานอื่น ๆ เช่น จากฌาน ๑ ไป ๒ ได้ต้องภาวนาไปเรื่อย ๆ จนวิตกและวิจาร ไม่มี และไม่ต้องไปบังคับตัวเราให้ตัดวิตก กับวิจาร เรามีหน้าที่แค่ภาวนาจนจิตจะตัดวิตกและวิจาร

ผมเลยสงสัยว่าท่านที่มีวสี หรือชำนาญในการเข้าฌาน ออกฌาน สลับฌานได้ ท่านสั่งให้จิตเข้าฌานตามใจนึกอย่างไรครับ

๔.ถ้าอยากจะฝึกให้มีวสี สามารถใช้ชีวิตแบบปุถุชนคนทั่วไปได้ไหมครับ เช่นดูหนัง มีแฟน เล่นเกม ไปเที่ยว พอว่าง ๆ ก็ทำสมาธิ พูดง่าย ๆ ก็ยังอยู่กับกามคุณ ๕ และก็ทำสมาธิไปด้วย หรือควรจะประพฤติพรหมจรรย์ หรือแปลง่าย ๆ คือทำตัวแบบพรหม เช่นไม่ยุ่งกับกามคุณทั้ง ๕ เลย และถ้าว่างเมื่อไหร่ต้องภาวนา

๕.หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมโนมยิทธิ เพื่อให้ไปเราได้รู้จักพระนิพพาน และผมอ่านประวัติพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลที่เป็นเลิศด้านมโนมยิทธิ ท่านสามารถใช้มโนมิยทธิแยกร่างกายออกมาได้ ผมสงสัยในข้อแยกร่างนี้คนที่เข้าฌาน ๔ ได้ทำได้ทุกคน หรือว่าพระองค์นั้นทำได้คนเดียวหรือครับ

๖.ปกติเวลาพระจะสึกก็ต้องหาฤกษ์ที่จะสึก แต่ผมสงสัยว่าสมมุติสงฆ์ที่ทำอาบัติปาราชิก ต้องหาฤกษ์ไหมครับ เพราะตอนที่ได้ทำอาบัติตอนนั้นขาดความเป็นพระไปแล้ว

๗.ผมสงสัยการเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้นอย่างพระโสดาบันขั้นหยาบที่ใช้ชีวิตเหมือนชาวบ้านทั่วไปแต่ตัดสังโยชน์ ๓ ได้ต้องเป็นคนที่กำลังใจอุปบารมี หรือ ปรมัตถบารมีครับ

๘.หลวงพ่อได้กรรมฐาน ๔๐ ครบทุกข้อแล้ว สมมุติว่าคนที่มีเวลาเยอะ และอยากจะฝึกกรรมฐาน ๔๐ ให้ครบและเร็วที่สุด ต้องเริ่มจากพระกรรมฐานกองไหนดีครับ
๘.๑ ในกรรมฐาน ๔๐ ในเรื่องของการเข้าถึงฌาน ๔ ในพรหมวิหาร ๔ และทรงอารมณ์พรหมวิหาร ๔ ตลอดเวลาจริง ๆ ที่หลวงพ่อบอกว่าต้องออกมาจากกำลังใจของเราจริง ๆ ผมเข้าใจถูกไหมว่าเป็นวิปัสสนาอย่างหนึ่ง เพราะผมคิดว่าเราเข้าถึงธรรมในระดับหนึ่ง รู้สึกเบา และเราเลยเห็นดวงจิตทั้งหลายที่อยู่วัฏสงสาร ว่าเป็นเพื่อน ต่อให้ดวงจิตเหล่านั้นจะมีความเลวขนาดพระเทวทัต เช่นขาดหิริ โอตตัปปะ หรือเจอพวกพวกคนเลว ๆ ที่มีใจด้านมาก ๆ เราไม่ได้รู้สึกโกรธ หรืออยากตำหนิเขา แต่รู้สึกในลักษณะว่าโอหนอ จิตประเภทนี้ขาดกุศลธรรมในจิต ต้องเวียนว่ายตายเกิดไปอีกนาน แสนนาน เราอยากจะช่วยให้เขากลับมาเป็นคนดี มีศีลธรรม แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะว่าจิตใจคนเหล่านี้มันด้าน ต้องรอจังหวะ อาจจะเป็นบุญตามมาสงเคราะ ตอนนั้นเราก็สามารถช่วยได้ การเข้าถึงอารมณ์ของพรหมวิหาร ๔ มันเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ

๙.ที่หลวงพ่อบอกว่ามโนมยิทธิ คือห้วงนึก ก็คือเราไม่ได้เห็นห้วงนึกแบบชัดใส เหมือนตามองเห็นรูป แต่เป็นความรู้สึกเห็นเป็นโครงร่าง เหมือนเวลาเราวาดภาพ เราก็แรเงาโครงร่างสิ่งที่เราจะวาด ใช่หรือเปล่าครับ

๑๐.ตอนที่ผมฝึกมโนมยิทธิกับครูฝึกที่เป็นฆราวาส ครูฝึกให้ผมขึ้นไปบนแดนพระนิพพานไปที่วิมานของเรา ตอนนั้นครูฝึกถามว่าเห็นอะไร หรือรู้สึกอะไร ตอนนั้นผมก็รู้สึกมีพวกม้า พวกหมา พวกสัตว์ต่าง ๆ อยู่ในวิมาน ครูฝึกก็บอกผมว่า สัตว์พวกนี้เธอเคยช่วยเหลือมาในอดีตชาติ ณ จุด ๆ นี้ผมเลยสงสัยสัตว์เดรัจฉานอยู่บนแดนพระนิพพานได้ด้วยหรือ แต่ตอนนี้ครูที่ฝึกมโนมยิทธิผมไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เลยไม่รู้จะถามใคร เลยอยากถามหลวงพ่อว่าแดนพระนิพพานมีพวกสัตว์เดรัจฉานเหมือนโลกมนุษย์ด้วยหรือครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นักเดินทางสังสารวัฏ : 19-05-2022 เมื่อ 11:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา