แต่กว่าที่จะบรรยายเสร็จ กว่าที่จะรับปัจจัยไทยธรรมอะไรมาเรียบร้อยก็เกือบจะ ๖ โมงเย็น กระผม/อาตมภาพได้สละปัจจัยค่าบรรยายร่วมบุญในการอบรมเจ้าอาวาสใหม่ไปตามระเบียบ ก็คือเป็นนิสัยเฉพาะตนว่า ถ้าบรรยายเป็นการกุศลในลักษณะอย่างนี้ หากว่าทางเจ้าภาพรับบริจาคช่วยเหลืองาน ก็จะบริจาคให้กับงานนั้น ๆ ไปเลย
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ แต่ว่าไปไม่ถึงวัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าสภาพร่างกายกรอบทั้งโชเฟอร์และทั้งผู้โดยสาร ก็คือคนขับก็ไม่ไหว คนนั่งอย่างกระผม/อาตมภาพก็ไม่ไหว จึงได้แวะเข้าพักที่วัดท่ามะขาม หรือวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ไปถึงเวลา ๑ ทุ่ม ๔๕ นาที เมื่อมาถึงก็ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ส่งให้แก่ญาติโยมทั้งหลายที่รอฟังอยู่ทุกวัน
สิ่งที่อยากจะพูด อยากจะบอก อยากจะกล่าวในวันนี้ก็คือ พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ซึ่งเมื่อไปถึงแล้ว หลวงพ่อไล้ (พระครูวิบูลจิตตารักษ์) เจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ที่ต้องบอกว่าเป็น "ลูกหม้อ" ขนานแท้ของวัดนี้ เมื่อสิ้นหลวงพ่อพระครูบวรพัฒนกิจ (บรรทม กิตฺติสาโร) อดีตเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ชาวบ้านก็ขอตัวหลวงพ่อไล้ ซึ่งก็คือลูกศิษย์ของหลวงพ่อบรรทม (พระครูบวรพัฒนกิจ) กลับมาเป็นเจ้าอาวาสต่อจากครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อมาบริหารจัดการวัด ท่านก็คิดจะเสริมสร้างสิ่งที่สามารถจรรโลงเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ เกียรติคุณ ของอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง โดยเฉพาะผู้ที่ชาวบ้านทั้งหลายเคารพนับถืออย่างมาก ก็คือหลวงพ่อนาถ ด้วยการจะสร้างพระเจดีย์ศรีโสภณประชานารถ เป็นการบูชาคุณครูบาอาจารย์ อดีตบูรพาจารย์ เจ้าอาวาสเก่า จึงได้ตั้งใจสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา โดยติดต่อกระผม/อาตมภาพ ให้เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่มาทำการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้
เมื่อกระผม/อาตมภาพได้รับการติดต่อมา ก็แจ้งท่านไปว่า ส่งฎีกาทางไปรษณีย์ก็ได้ หรือว่าสแกนแล้วส่งในกลุ่มไลน์ก็ได้ แต่ว่าท่านพระครูวิบูลย์จิตตารักษ์ หรือว่าหลวงพ่อไล้ ท่านไม่ยอมทำอย่างนั้น ท่านเดินทางขึ้นไปจนถึงวัดท่าขนุน ซึ่งจากท่าม่วงไปก็ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เพื่อที่จะถวายฎีกา แล้วในระหว่างก่อนงาน ก็ยังมีการโทรศัพท์ตรวจสอบเป็นระยะว่า กระผม/อาตมภาพมีงานด่วนอะไรแทรกเข้ามาหรือไม่ ? เพราะได้เรียนท่านไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า "ถ้าเป็นงานคณะสงฆ์ กระผมก็จะ "เท" งานของท่าน..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2022 เมื่อ 02:29
|