ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 21-06-2022, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,416,956 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การเดินทางนั้นเป็นการเดินทางย้อนกลับ ซึ่งครั้งก่อนเรามาตอนกลางคืน และรถคันที่กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่นั้น ต้องพยายามเร่งเครื่องหลบหินถล่ม ซึ่งเกือบจะไปเสียบตูดรถสิบล้อคันข้างหน้า..! ปรากฏว่ามาถึงวันนี้นั้นเขาก็ยังเคลียร์หินถล่มไม่หมด ทำให้รถยนต์ติดนิ่งอยู่นานมาก ๆ ซึ่งแต่ละช่วงเวลานั้นติดถึง ๑๐ กว่า ๒๐ นาที กว่าที่เราจะผ่านออกไปได้ ก็ใช้เวลาถึง ๔๐ นาทีเศษ แต่ว่ายังดีกว่ารถซึ่งวิ่งสวนเราไปนั้น ติดยาวหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว..!

เมื่อพวกเรามาเสียเวลาชักช้า จึงต้องเข้าไปรับประทานอาหารกันที่ในเมืองซิงตัม เข้าร้านกันตั้งแต่ประมาณ ๑๐ โมงครึ่งของที่นี่ เพื่อเปิดโอกาสให้นายสุเรศวร์ ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์พื้นเมืองนั้น ไปประทับตราหนังสือเดินทางเพื่อกลับเข้าเมือง

ร้านที่เราเข้าไปนั่งนั้น ถ้าหากว่าดูจากทางเข้าแล้วก็ไม่น่าที่จะมีอะไรเลย เพราะว่าเป็นช่องทางแคบ ๆ เล็ก ๆ เตี้ย ๆ ให้มุดเข้าไปแบบทางหมาลอด ร้านนี้ชื่อว่า Green & Organic Sikkim แต่เมื่อเข้าไปภายในแล้ว ปรากฏว่าใหญ่โตกว้างขวางน่าดู มีกระทั่งห้องพิเศษสำหรับแขกที่นิยมความเป็นส่วนตัว มีกระทั่งเวทีดนตรี และที่แน่นอนที่สุดก็คือ ทางด้านหลังได้จัดเอาไว้เป็นที่สูบบุหรี่ของบรรดาสิงห์อมควันโดยเฉพาะด้วย

แม้ว่าพวกเราจะรออาหารกันอยู่นานหน่อย แต่กระผม/อาตมภาพก็ได้สำรวจสถานที่เรียบร้อยไปแล้ว แค่ที่ตาเห็นนั้น เขามีกล้องวงจรปิดอยู่ถึง ๔ ตัว โดยเฉพาะมีระบบเลเซอร์ที่สำหรับถ่ายภาพตอนกลางคืนด้วย

ส่วนห้องน้ำนั้นมีการแบ่งชนชั้น ด้านหนึ่งเขียนว่า Indian คือสำหรับคนอินเดีย อีกด้านหนึ่งเขียนว่า Western ประเทศตะวันตก เมื่อกระผม/อาตมภาพเปิดเข้าไปดูจึงเห็นความต่างว่า ห้องน้ำสำหรับคนอินเดียนั้นเป็นห้องแบบนั่งยอง ส่วนห้องน้ำของทางด้านชาติตะวันตกนั้นเป็นโถชักโครก

เมื่อพวกเรารับประทานอาหารกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ได้เดินทางข้ามสะพานใหญ่ ซึ่งเป็นเขตกั้นระหว่างนครรัฐสิกขิมกับเมืองกาลิมปงของประเทศอินเดีย โดยที่วิ่งไปแล้วเห็นถนนหนทางค่อนข้างดี เพราะว่าเรามาออกคนละเส้นทางกับทางด้านที่วิ่งมาแล้ว

แต่ด้วยความที่ว่าอยากจะให้ทุกคนทำใจล่วงหน้าว่าสถานที่นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงดีใจได้พักเดียว ก็เจอหินถล่มบ้าง ทางที่เป็นโคลนเลนบ้าง เพียงแต่ว่าเส้นทางเส้นนี้นั้นวิ่งข้ามไปข้ามมาระหว่างแม่น้ำ ลักษณะเดียวกับที่คนโบราณไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ต้องอยู่ใกล้น้ำ เพื่อที่จะไม่ให้ตนเองเดือดร้อนเพราะการขาดน้ำ

พวกเราวิ่งไปจนกระทั่งถึงเมืองกาลิมปง ซึ่งต้องบอกว่าหลังจากที่ออกห่างจากริมแม่น้ำแล้ว ก็ต้องวิ่งขึ้นที่สูงไปตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2022 เมื่อ 04:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา