ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 10-07-2022, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,707 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยปกติแล้ว คนทั่วไปถึงเวลากล่าววาจาโดยไม่คิดเพราะว่าขาดสติ แต่เราเองดันไปถือสา ไปปรุงแต่ง ไปโกรธเคือง ก็ทำให้ตัวเราเองเสียกำลังใจ โกรธเขาไปเป็นวันเป็นคืน ขณะที่คนพูดเองยังไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแต่ว่าบุคคลที่จะสร้างความสะเทือนใจให้เรามากที่สุด ก็มักจะเป็นบุคคลที่เรารักมากที่สุดเสียด้วย ทำอย่างไรที่ท่านจะสักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่าได้รส สักแต่ว่าสัมผัส โดยที่ไม่ให้ใจไปนึกคิดปรุงแต่งตาม

ระยะแรกเราอาจจะยังทำไม่ได้ ก็ให้วางกำลังใจทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าพร้อมกับคำภาวนา ตามรู้ลมเข้าไปจนสุด หายใจออกพร้อมกับคำภาวนา ตามรู้ลมออกมาจนสุด เท่ากับว่ากำลังใจของเราไม่ได้ปรุงแต่งไปในอดีต ไม่ได้ปรุงแต่งไปในอนาคต หากแต่ว่าหยุดอยู่กับปัจจุบัน คือลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า ถ้าเราสามารถหยุดอยู่ตรงนี้ได้ กิเลสต่าง ๆ ก็โดนจำกัดเขต ไม่สามารถที่จะกินใจของเราได้มากนัก

แต่ว่าท่านทั้งหลายต้องระมัดระวังให้ดี เพราะว่าเผลอสติเมื่อไร เราก็จะหลุดออกจากอารมณ์นี้ แล้วเมื่อนั้นกิเลสทั้งหลายก็จะมาแบบฟ้าถล่มดินทลาย ทำให้ท่านทั้งหลายจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก เสียผู้เสียคนไปเป็นวันเป็นเดือน บางท่านก็เสียไปเป็นปี ๆ ไม่สามารถที่จะตีคืนมาได้

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ พระอาจารย์ใหญ่รูปหนึ่งของอำเภอทองผาภูมิของเรา ก่อนหน้านี้เป็นพระปฏิบัติที่มีชื่อเสียงมาก มีญาติโยมเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก แต่ว่าเผลอสติให้ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจได้ ทำให้แปรเปลี่ยนไปจากแนวทางในการปฏิบัติ จากที่ตัดรัก ตัดโลภ ตัดโกรธ ตัดหลงได้ ก็กลายเป็น รัก โลภ โกรธ หลง เจริญงอกงามเป็นพิเศษ ถึงขนาดที่กระผม/อาตมภาพต้องดุว่าไปแรง ๆ ทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นระดับครูบาอาจารย์..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านเป็นเจ้าอาวาส ตัวของกระผม/อาตมภาพตอนนั้นเป็นเจ้าคณะตำบล ถือว่าอยู่ในระดับผู้บังคับบัญชา หรือว่าถ้าหากว่านับตำแหน่งในตอนนี้ คือรองเจ้าคณะอำเภอ ก็ยิ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงเข้าไปอีก จึงได้ดุท่านไปแรง ๆ เพื่อที่ให้ท่านได้สติ พร้อมกับบอกกับท่านว่า "กระผมจะรอวันเวลาที่หลวงพ่อสามารถตีกำลังใจกลับคืนมาได้ ถ้าหากว่าถึงวันนั้น กระผม/อาตมภาพจะกราบขอขมาหลวงพ่อ ที่ได้ว่ากล่าวไปแรง ๆ ในวันนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2022 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา